ข่าวการเมือง "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

ความจริงในตัวเลขจีดีพี ที่รัฐบาลอวดอ้างว่า ไทยเป็นเพียง 1 ใน 2 ประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น


  • รัฐบาลยกตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจจาก IMF มาอ้างว่า ไทยเป็นเพียงไม่กี่ประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจจะขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566
  • แต่ข้อเท็จจริงที่รัฐบาลไม่ได้พูดออกมา คือ ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2566 ของไทยก็ยังคงต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ เพียงแต่ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวจากวิกฤติในช่วงโควิด-19 ช้ากว่าเพื่อนมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อตัวเลขคาดการณ์ปี 2566 ขยายตัวมากกว่าปี 2565 จึงพูดได้ว่า “ขยายตัวเพิ่มขึ้น” แต่ก็ไม่ได้น่ายินดีอะไรนัก


“นายกรัฐมนตรียินดี IMF มองเศรษฐกิจไทยปีหน้าโตสวนทางเศรษฐกิจโลก ชี้ความชัดเจนของนโยบายรัฐบาลส่งผลสำคัญต่อความเชื่อมั่นนักลงทุน นักท่องเที่ยวและผู้ประเมินประเทศไทย”

คือพาดหัวข่าวที่โฆษกรัฐบาลแถลงออกมาในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 อ้างอิงตัวเลขคาดการณ์จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) 

และต่อมาในวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565 หลังจากที่สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ แถลงตัวเลขเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ขยายตัว 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ก็มีอีกข่าวหนึ่งที่โฆษกรัฐบาลแถลงออกมาว่า… 

“นายกรัฐมนตรีปลื้มจีดีพีไทยไตรมาส 3/65 โตอีกร้อยละ 4.5 เร่งขันนอตเบิกจ่ายงบลงทุน บริหารส่งออกรับความท้าทายเศรษฐกิจโลก พร้อมรักษาความต่อเนื่องการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนและเอสเอ็มอี” 

ทั้งสองข่าวนี้ชวนให้สันนิษฐานว่า รัฐบาลจงใจหลอกประชาชนให้เชื่อในเรื่องเล่าที่หยิบยกตัวเลขมาพูดเพียงแง่มุมเดียว เพื่อให้ดูดี ไม่ได้บอกข้อเท็จจริงทั้งหมด 

ดังนั้น ไทยรัฐพลัสขอชวนไปดูว่า เราควรมองเห็นอะไรบ้างที่อยู่เบื้องหลังตัวเลขการขยายตัวของเศรษฐกิจ ที่รัฐบาลไม่ได้บอกออกมา 


ภาวะเศรษฐกิจไทยปีนี้

สำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ คือ เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ขยายตัว 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่เร่งขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกและไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ที่ขยายตัว 2.3% และ 2.5% ตามลำดับ 

เมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 ขยาย 1.2% จากไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 รวม 9 เดือนแรกของปี 2565 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.1% 

ส่วนที่ขยายตัวคือ การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัว 9.0% เร่งขึ้นต่อเนื่อง และการใช้จ่ายการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกบริการ ขยายตัวเร่งขึ้น 

ส่วนที่ชะลอตัวคือ การส่งออกสินค้า

และส่วนที่ลดลงคือ การใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ

ส่วนภาพรวมทั้งปี 2565 สภาพัฒน์ คาดว่า จีดีพีจะขยายตัว 3.2% เป็นอัตราการขยายตัวที่เร่งขึ้นจากปี 2564 ที่ขยายตัว 1.5% ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั้งปี คาดว่าจะอยู่ที่ 6.3% และดุลบัญชีเดินสะพัด ขาดดุล 3.6% ของจีดีพี 


แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566

ส่วนแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2566 สภาพัฒน์ คาดว่า จีดีพีจะขยายตัวในช่วง 3.0-4.0% โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว การขยายตัวของการลงทุนทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภายในประเทศ และการขยายตัวในเกณฑ์ดีของภาคเกษตร 

และคาดว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐจะขยายตัว 1.0% อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยอยู่ในช่วง 2.5-3.5% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.1% ของจีดีพี 

คาดการณ์ของสภาพัฒน์ เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการคาดการณ์ขององค์กรอื่นๆ ที่มองว่า เศรษฐกิจไทยในปีหน้าจะขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นกว่าปีนี้  

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund: IMF) คาดการณ์ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัว 3.7% 

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) คาดการณ์ ณ เดือนกันยายนว่า เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะโต 3.8% 

และ Krungthai COMPASS ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2566 จะขยายตัวในอัตราเร่งขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2565


เมื่อรัฐบาลบอกว่าเศรษฐกิจไทยโตดีกว่าเศรษฐกิจโลก

ส่วนหนึ่งในเนื้อหาข่าวที่โฆษกรัฐบาลแถลงออกมาคือ 

“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้รับทราบถึงรายงานที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประมาณการเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 3.7 ในปี 2566 จากร้อยละ 2.8 ในปีนี้ พร้อมกับคาดว่าการว่างงานของไทยจะอยู่ในอัตราต่ำที่สุดในเอเชียแปซิฟิกที่ 1.0% โดยไทยเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในเอเชียที่ IMF มองว่าเศรษฐกิจจะยังขยายตัวได้ท่ามกลางการชะลอตัวของทั่วโลกที่เผชิญกับความท้าทายจากภาวะเงินเฟ้อ และต้นทุนการครองชีพที่สูงขึ้น”

“สำหรับข้อมูลประมาณการเศรษฐกิจโดย IMF ดังกล่าว ได้มีการเปิดเผยระหว่างที่ นางคริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการ IMF เยือนประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมเวทีการประชุมผู้นำเอเปก เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่ง IMF เห็นว่าเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกเอเปกส่วนใหญ่กำลังชะลอตัวลง และอย่างน้อย 1 ใน 3 ของโลกจะเข้าสู่ภาวะถดถอย ทำให้จีดีพีทั่วโลกในปี 2566 จะขยายตัวได้ร้อยละ 2.7 ชะลอลงจากร้อยละ 3.2 ในปี 2565”

“อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในบางพื้นที่ยังคงมีความสดใส โดยอาเซียนเป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งรายงานของ IMF แสดงให้เห็นว่า ไทยและจีนเป็นเพียง 2 ประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้นในปี 2566 เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ปีก่อนหน้า ไม่นับรวมฮ่องกงและมาเก๊า”


แต่ความจริงที่รัฐบาลไม่ได้บอกคือ… 

เนื้อหาที่โฆษกรัฐบาลยกมากล่าวแถลงนี้ ดูเหมือนว่าเป็นการเจตนาเลือกเฉพาะมุมที่ดูดีจากข้อมูลมากล่าวอวดอ้าง แต่ความจริงที่รัฐบาลไม่ได้พูดออกมา คือ ตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2566 ของไทยยังคงต่ำกว่าหลายๆ ประเทศ เพียงแต่ว่าเศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นตัวจากวิกฤติในช่วงโควิด-19 ช้ากว่าเพื่อน โดยในปี 2564 จีดีพีของไทยขยายตัวขึ้นเพียง 1.5% ส่วนในปี 2565 นี้ IMF คาดว่าจีดีพีไทยจะขยายตัว 2.8% 

ดังนั้น เมื่อตัวเลขคาดการณ์ปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 3.7% ซึ่งมากกว่าอัตราการขยายตัวในปี 2565 จึงพูดได้ว่า “ขยายตัวเพิ่มขึ้น” แต่ก็ไม่ได้น่ายินดีอะไรนัก 

ถ้าไปดูเปรียบเทียบกับประเทศอื่น เราจะเห็นภาพความจริงชัดขึ้นว่า เศรษฐกิจของประเทศเพื่อนบ้านฟื้นตัวดีกว่าเราติดต่อกันมาแล้ว 2 ปี จึงไม่แปลกถ้าในปี 2566 การเติบโตหรือขยายตัวของประเทศเพื่อนบ้านจะเป็นไปในอัตราที่ชะลอลง คือโตน้อยกว่าปีก่อนหน้า 

แต่ถึงอย่างนั้น ความจริงที่ต้องย้ำก็คือ ตัวเลขของหลายประเทศยังสูงกว่าไทยอยู่ดี ดังตัวอย่างต่อไปนี้ (และในตารางด้านล่าง) 

อินโดนีเซีย ในปี 2564 จีดีพีขยายตัว 3.7% ปี 2565 นี้ คาดว่าจะขยายตัว 5.3% ส่วนในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 5.0% 

เวียดนาม ในปี 2564 จีดีพีขยายตัว 2.6% ปี 2565 นี้คาดว่าจะขยายตัว 7.0% ส่วนในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 6.2% 

ฟิลิปปินส์ ในปี 2564 จีดีพีขยายตัว 5.7% ปี 2565 นี้คาดว่าจะขยายตัว 6.5% และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 5.0% 

มาเลเซีย ในปี 2564 จีดีพีขยายตัว 3.1% ปี 2565 นี้คาดว่าจะขยายตัว 5.4% และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 4.4% 

ส่วนจีน ที่รัฐบาลไทยยกมาอ้างด้วยว่า “ไทยและจีนเป็น 1 ใน 2 ประเทศในเอเชียที่เศรษฐกิจขยายตัวเพิ่มขึ้น” นั้น ก็ต่างจากไทย เพราะจีดีพีของจีนในปี 2564 ขยายตัว 8.1% และในปี 2565 นี้คาดว่าจะขยายตัว 3.2% ซึ่งมากกว่าไทย ส่วนในปีหน้า คาดว่าจะขยายตัว 4.4% ซึ่งก็มากกว่าไทยอีก 

จะเห็นว่าตัวเลขของเหล่าประเทศร่วมอาเซียน-5 ล้วนแต่สูงกว่าไทย ทั้งในปีนี้ ปีก่อนหน้า และปีที่กำลังจะมาถึง แต่รัฐบาลเรากลับบอก (หลอก) ประชาชนของตัวเองว่า เศรษฐกิจเราขยายตัวดีกว่าประเทศอื่น เป็นเพียงไม่กี่ประเทศที่จีดีพีขยายตัวในอัตราเพิ่มขึ้น 

ส่วนที่ว่าเศรษฐกิจไทยโตดีสวนทางเศรษฐกิจโลกก็ค่อนข้างจะเกินจริงไป ถึงแม้ว่าตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอลง ซึ่งไม่ผิดถ้าจะมองเพียงทิศทางกับจังหวะว่าเร่งตัวขึ้นหรือชะลอลง แต่ความจริงก็อีกเช่นกันว่า ก่อนหน้านี้จีดีพีโลกขยายตัวในอัตราที่เร็วกว่าจีดีพีไทย โดยจีดีพีโลกในปี 2564 ขยายตัว 6.0% ส่วนคาดการณ์ปี 2565 จีดีพีโลกจะขยายตัว 3.2% และปี 2566 คาดการณ์ว่าจะขยายตัว 2.7% 

ขณะที่เศรษฐกิจไทย ในปี 2564 จีดีพีของไทยขยายตัวขึ้น 1.5% ส่วนในปี 2565 นี้ คาดว่าจีดีพีไทยจะขยายตัว 2.8% และปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว 3.7% 

หากเชื่อถือในตัวเลขว่าตัวเลขและสถิติต่างๆ ไม่หลอกลวง เราก็น่าจะสรุปได้ว่า สถานการณ์ปีนี้และปีหน้าที่กำลังจะมาถึง ยังไม่ได้น่ายินดีอย่างที่นายกรัฐมนตรียินดี  

และยังมีคำเตือนถึงปัจจัยเสี่ยงอีกมากมายที่รัฐบาลควรเตรียมตัวให้พร้อมรับมือ

 </{Fullwidth}

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยฟูลนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.