นายกฯ กล่าว สุขสันต์วันเด็ก ตั้งเป้าต้องไม่มีใครหลุดออกจากระบบการศึกษา
นายกรัฐมนตรี เปิดงานวันเด็กแห่งชาติปี 2567 ทำเนียบรัฐบาล ยืนยันมุ่งมั่นส่งเสริมให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา ตั้งเป้าหมาย Zero Dropout ต้องไม่มีใครหลุดออกจากระบบ ฝากผู้ปกครอง-ครูช่วยเสริมสร้างประสบการณ์ ทักษะ ให้เด็กพร้อมดำเนินชีวิตให้ทันโลกทันสมัย
วันที่ 13 มกราคม 2567 เมื่อเวลา 09.25 น. ณ ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานเปิดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2567 ณ ทำเนียบรัฐบาล พร้อมกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการขับร้องเพลงประสานเสียง เพลง “อยากจะฟัง” ของเด็กและเยาวชน จากกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ อีกทั้งยังได้รับชมการแสดงของเยาวชนทีม BLOC D JUNIOR จากสมาคมจิตอาสาพัฒนา
จากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวให้โอวาทฯ ตอนหนึ่งว่า สุขสันต์วันเด็ก เด็กๆ และเยาวชนทุกคนมีคุณค่าในตัวเอง เด็กคือ ผู้กำหนดอนาคตของประเทศชาติของเรา ความปรารถนาสูงสุดของตนเองนั้น อยากให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้รับการส่งเสริมการเรียนรู้ ความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อจะได้ใช้ความรู้ความสามารถนั้นให้เป็นประโยชน์ทั้งต่อการดำรงชีวิตในมิติทางเศรษฐกิจและมิติของการสร้างความสุขให้กับตัวเองและผู้อื่น
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อไปว่า รัฐบาลมุ่งมั่นส่งเสริมให้เด็กทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษา โดยตั้งเป้าหมาย Zero Dropout คือ จะไม่มีเด็กและเยาวชนหลุดจากระบบการศึกษาในประเทศนี้ โดยรัฐบาลจะแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา เชื่อมโยงข้อมูลทะเบียนนักเรียนรายบุคคลที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบ พร้อมทั้งจะส่งเสริมการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ที่ยืดหยุ่น เพิ่มทางเลือกให้ตรงตามความต้องการและวิถีชีวิตของผู้เรียน มุ่งเน้นการพัฒนาสมรรถนะ ทักษะอาชีพ และทักษะชีวิต เพื่อป้องกันไม่ให้เด็กและเยาวชนหลุดออกจากระบบการศึกษาซ้ำซาก
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า วันเด็กปีนี้ ได้มอบคำขวัญไว้ว่า “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง ร่วมกันสร้างประชาธิปไตย” เพราะอยากให้เด็กสัมผัสถึงความรัก ความห่วงใย ความปรารถนาดีจากผู้ใหญ่ อยากให้เห็นโลกกว้าง รัฐบาลอยากเห็นเด็กมีชีวิตอยู่ด้วยความรัก ความเข้าใจในความแตกต่างของผู้คนที่อยู่ร่วมกันในสังคม ซึ่งท้ายที่สุดจะก่อรูปเป็นวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่อยู่ร่วมกันบนฐานของความรัก ความเห็นอกเห็นใจต่อเพื่อนร่วมชาติและเพื่อนมนุษย์ในโลก เป็นเด็กที่มีโลกทัศน์กว้างไกล เปิดรับเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตนอกเหนือจากในตำราเรียน
“ฝากถึงผู้ปกครองและคุณครู ต้องช่วยกันเสริมสร้างประสบการณ์และทักษะ เพื่อให้มีความพร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตให้ทันโลก ทันสมัยแห่งปัจจุบัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมและจริยธรรมอย่างเป็นสากล ซึ่งหมายถึงการเคารพในสิทธิเสรีภาพของกันและกัน เพื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต” นายกรัฐมนตรี ย้ำ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินเยี่ยมชมกิจกรรมสำหรับเด็กและเยาวชนจากหน่วยงานต่างๆ ภายใต้หัวข้อ “มองโลกกว้าง คิดสร้างสรรค์ เคารพความแตกต่าง และส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เช่น กิจกรรมส่งเสริมวัฒนธรรมและมารยาทไทย โดยกระทรวงวัฒนธรรม กิจกรรมส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ด้านกีฬา “บัวขาว บัญชาเมฆ สร้างแรงบันดาลใจ ถ่ายทอดมวยไทยสู่เยาวชน” โดยบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กิจกรรม “อึกทึกคึกคักรักคาแรกเตอร์ไทย” ปล่อยพลังสร้างสรรค์ ร่วมออกแบบคาแรกเตอร์ไทย โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) (CEA) กิจกรรม “ท่องโลกสีรุ้ง” อ่านนิทาน เล่นบอร์ดเกมส์ โดยกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ) มูลนิธิเครือข่ายเพื่อนกะเทยเพื่อสิทธิมนุษยชน ฯลฯ เป็นต้น พร้อมทั้งร่วมถ่ายกับเด็กและเยาวชนอย่างเป็นกันเอง“เศรษฐา” ไหว้หลวงพ่อทันใจวัดพระธาตุดอยคำ ขอพรให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
นายกรัฐมนตรี ขึ้นวัดพระธาตุดอยคำ ถวายพวงมาลัยดอกมะลิ 1,000 พวง หลวงพ่อทันใจ เพื่อความเป็นสิริมงคล ขอพรให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง ความเป็นอยู่ประชาชนดีขึ้น นักท่องเที่ยวไทย-ต่างชาติ แห่ขอถ่ายรูปคึกคัก
เมื่อเวลา
10.45 น.วันที่ 12 ม.ค. 2567 ที่จังหวัดเชียงใหม่ นายเศรษฐา ทวีสิน
นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เดินทางมาวัดพระธาตุดอยคำ อ.เมืองเชียงใหม่
จ.เชียงใหม่ ไหว้ขอพรหลวงพ่อทันใจ พร้อมถวายพวงมาลัยดอกมะลิจำนวน 1,000 พวง
เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนที่จะเข้ากราบพระครูสุนทรเจติยารักษ์
เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ และถวายเครื่องจตุปัจจัยไทยธรรม
พร้อมร่วมวงสนทนาธรรม
โดยนายกฯ กล่าวว่า เดินทางมาถึง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 10 ม.ค.และเมื่อวันที่ 11 ม.ค.ได้ปฏิบัติภารกิจตลอดทั้งวันที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งตนมาดูเรื่องฝุ่น และ PM 2.5 เป็นหลัก รวมทั้งมาดูงานด้านคมนาคมทั้งจังหวัด โดยเฉพาะเรื่องการก่อสร้างรถไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อให้การจราจรดียิ่งขึ้นไม่ต้องใช้รถและมีฝุ่น รวมทั้งจะทำสนามบินให้ดีขึ้น และเมื่อช่วงเช้าก็ได้ไปร่วมงานสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของชาวชาติพันธุ์ลาหู่ โดยได้พูดคุยและให้ความมั่นใจว่า บุตรหลานที่เกิดที่ประเทศไทย ถ้าหากถ้าหากพิสูจน์ทราบได้ไม่ต้องไปเสียเงินหรือจ่ายเงินก็จะสามารถเข้ารับสิทธิ์พื้นฐานไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา การสาธารณสุข รัฐบาลได้ให้ความมั่นใจ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ดูแลเรื่องการบูรณาการทั้งการจราจรและการจัดระเบียบร้านค้าบริเวณวัด รวมทั้งเรื่องน้ำ แต่คงต้องขอเวลาสักระยะหนึ่ง
จากนั้นพระครูสุนทรเจติยารักษ์ ให้ศีลให้พร ก่อนมอบพระพุทธรูปจำลองหลวงพ่อทันใจ รุ่นรวยเงินล้านหน้าตัก 5 นิ้ว ให้นายกฯ
ต่อมา นายกฯ เข้ากราบพระรอดอายุ 1,300 ปี ก่อนที่จะเดินมายังลานชมวิววัดพระธาตุดอยคำ เพื่อชมภูมิทัศน์ โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศต่างเข้ามาขอถ่ายรูป
นายกฯ เปิดเผยว่า ได้ขอพรขอให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง และขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนดีขึ้นเรื่อยๆ
อิ๊งค์" แพทองธาร นำทีม เพื่อไทย ปล่อยคลิป อวยพรปีใหม่ 2567 ปีมังกร ขอให้ทุกท่าน มีความสุข สุขภาพดี ในวันปีใหม่นี้ เพื่อรอคอยสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น รัฐบาลเศรษฐา พาคนไทยเป็นเศรษฐี พรรคเพื่อไทยจะทำงานหนัก พัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยต่อไป

วันที่ 30 ธ.ค. 66 "อิ๊งค์" แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย โพสต์คลิปอวยพรวันขึ้นปีใหม่ ผ่านเฟซบุ๊ก Ing Shinawatra ระบุว่า...
"สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ปี 2566 จบลงแล้วค่ะ ถึงเวลาปีใหม่ 2567 ที่ความท้าทายใหม่ๆ โอกาสใหม่ๆ จะเกิดขึ้น ให้เราเตรียมพร้อมรับกันต่อไปค่ะ พรรคเพื่อไทยเราจะทำงานหนักให้ทันกับงานจำนวนมาก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องคนไทยต่อไปค่ะ
ขอให้ทุกท่านมีความสุข สุขภาพดี ในวันปีใหม่นี้ เพื่อรอคอยสิ่งดีๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นค่ะ
ทั้งนี้ยังมี แกนนำพรรค และเหล่า สส.พรรคเพื่อไทยร่วมอวยพรปีใหม่ 2567 ให้คนไทยทั้งประเทศ"
มีการอวยพรปีใหม่ "รัฐบาลเศรษฐา พาคนไทยเป็นเศรษฐี" อีกด้วย

