ข่าวการเมือง "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

เสียงของประชาชน ‘ยืน หยุด ขัง’ และถ้อยคำส่งถึง ตะวัน และ แบม


  • นักกิจกรรมอิสระ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ ขอถอนประกันเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ และประกาศอดข้าวอดน้ำพร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ
  • วันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. กลุ่มทะลุฟ้า ได้เริ่มจัดกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ เป็นระยะเวลารวม 112 ชั่วโมง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนักกิจกรรมในเรือนจำ ไทยรัฐพลัสลงพื้นที่เพื่อสำรวจความคิดเห็นและความรู้สึกจากใจประชาชน ‘ยืน หยุด ขัง’ ที่มีต่อตะวัน แบม และสถานการณ์ตึงเครียดในครั้งนี้


หลังจากนักกิจกรรมอิสระ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ ขอถอนประกันเพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้กับนักกิจกรรมที่ยังถูกคุมขังในเรือนจำ และประกาศอดข้าวอดน้ำพร้อมข้อเรียกร้อง 3 ข้อ บรรยากาศของสังคมนับจากนั้นก็เต็มไปด้วยความตึงเครียด ด้วยตระหนักดีว่าทุกๆ นาทีที่ผ่านไปร่างกายของทั้งสองจะอยู่บนความเสี่ยงมากขึ้นเรื่อยๆ 

ท่ามกลางบรรยากาศดังกล่าว ในวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. กลุ่มทะลุฟ้า ได้เริ่มจัดกิจกรรม ‘ยืน หยุด ขัง’ บริเวณหน้าหอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 01.12 น. ไปจนถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 ม.ค. เป็นระยะเวลารวม 112 ชั่วโมง เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนักกิจกรรมในเรือนจำ และส่งเสียงยืนยันข้อเรียกร้อง 3 ข้อของแบมและตะวัน ได้แก่

1. ต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม 

2. ยุติการดำเนินความกับประชาชน 

3. พรรคการเมืองทุกพรรคเสนอนโยบาย เพื่อประกันสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยยกเลิกมาตรา 112 และ 116 

ในเย็นวันอาทิตย์ที่ 22 ม.ค. ไทยรัฐพลัสลงพื้นที่เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่เดินทางมาเข้าร่วม บริเวณหน้าหอศิลป์คราคร่ำไปด้วยประชาชนหลากหลายวัย และป้ายข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรม และต่อไปนี้ คือบางความรู้สึกจากใจประชาชน ‘ยืน หยุด ขัง’ ที่มีต่อตะวัน แบม และสถานการณ์ตึงเครียดในครั้งนี้





ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา 

“ข้อเรียกร้องที่เพื่อนๆ เสนอมา เป็นข้อเรียกร้องที่เราเห็นด้วยครับ ควรจะปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและปล่อยเพื่อนเราออกมา ในทุกคดีที่โดนมันคือการเมือง หลังจากที่ทุกคนออกมาต่อสู้”

“จริงๆ มันก็แล้วแต่ว่าเราจะเลือกวิธีการแบบไหน บางคนเลือกวิธีการรัฐสภา บางคนเลือกรอการเลือกตั้ง แต่ระหว่างที่ตั้งความหวังกับการเปลี่ยนแปลงโดยการเลือกตั้ง ทุกคนที่ยังมีแรงอยู่ ยังไหวอยู่ คิดว่าควรทำอะไรก็ต้องทำไป”

"สิ่งที่แบมกับตะวันทำก็เป็นวิธีการหนึ่ง ไม่ว่าคุณจะเห็นด้วยหรือไม่ สิ่งสำคัญคือต้องดูว่าข้อเสนอของพวกเขาคิดมาจากพื้นฐานอะไร บางทีมันอาจจะเหลือไม่กี่อย่างที่เขาทำได้ เพราะฉะนั้นเขาจึงใช้เครื่องมือเดียวที่เขาคิดว่ามีอยู่ แม้ว่าวิธีการจะแตกต่างกัน แต่ปลายทางของเราเหมือนกัน คือเราต้องการเห็นประเทศนี้มีความยุติธรรม ต้องการให้กฎหมายเป็นกฎหมาย ไม่ใช่เครื่องมือในการจับคนเห็นต่าง ข้อเสนอของน้องๆ ก็เกิดจากปลายทางที่ทุกคนอยากเห็นนี่แหละครับ”

“ขณะที่เราใช้วิธีการต่างๆ ในการต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพ รัฐก็ใช้วิธีการต่างๆ เพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของเราเช่นกัน มันก็เป็นแบบนี้ครับ เพราะประเทศนี้ไม่ปกติ ถ้าประเทศนี้ปกติ เวลาประชาชนออกมาเรียกร้องก็ควรรับฟัง ไม่ใช่จับเขาไปขัง พอคุณจับเขาไปขัง เราจึงต้องออกมา ถ้าฟังข้อเรียกร้อง หรือปล่อยพวกเขาออกมาตั้งแต่แรก พวกเราคงไม่มาอยู่ตรงนี้”

"ผมคิดว่าเรามองเรื่องนี้แล้วรู้สึกกับมันยังไง ก็ต้องแสดงออกมาอย่างนั้น ซื่อสัตย์กับความรู้สึก ทำตามที่ตัวเองถนัด ถ้าคุณรอการเปลี่ยนแปลงด้วยการเลือกตั้ง วันเลือกตั้งก็ไปกา อย่าให้คนพวกนี้กลับเข้ามาได้อีก ถ้าคุณไม่อยากรอแค่เลือกตั้ง ถ้ายังไหว ก็มาเคลื่อนไหวร่วมกันครับ มาจับตาการเลือกตั้ง มายืนหยุดขังซึ่งมีทั้งที่นี่และหน้าศาลฎีกา มีส่วนร่วมทางการเมืองเท่าที่ทำได้”

“อีกข้อที่ง่ายๆ เลยคือการโพสต์หรือแชร์ นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญเหมือนกัน เวลาพวกเราร่วมแรงร่วมใจกันในกรณีต่างๆ มันมีอิมแพ็คในสังคมนะครับ ก็รัฐนี้มันขับเคลื่อนด้วยพลังด่า”



บี (นามสมมติ)

“อยากบอกว่าเรานับถือการต่อสู้ของแบมกับตะวันมากๆ แบมกับตะวันเป็นตัวแทนของคำว่า ‘รัฐไม่สามารถกักขังคนที่เสรีได้’ คนที่เสรี แม้ว่าจะถูกจับไปกักขังยังไง เขาก็จะยังยืนหยัดต่อสิทธิของตัวเอง แบมและตะวันเป็นพลังให้ใครหลายคน อยากให้รู้ว่าสิ่งที่เขาทำมีความหมาย ถึงแม้กระแสของการเคลื่อนไหวจะลดลงไป แต่เราก็จะยังต่อสู้อยู่เหมือนเดิม เราอยากบอกว่าขอบคุณมากๆ”

“จริงๆ เราเป็นห่วงตั้งแต่เขากลับเข้าไปแล้ว เรากังวลมาตลอด ในแต่ละวันที่ผ่านไป เราก็รู้ว่าเขาต้องอดอยู่ทุกวัน ซึ่งมันทำให้เรารู้สึกกดดัน อยากให้มันมีอะไรเปลี่ยนแปลงเสียที พยายามโพสต์ให้คนออกมาช่วยพูดถึงเรื่องนี้กัน คนรอบๆ ตัวเราในวันนี้ก็ไม่เหมือนกับสองปีที่แล้วที่เคยเป็นกระแส ต่อให้เรายังโพสต์อยู่ตลอด แต่สุดท้ายเราก็ไม่รู้ว่าคนรอบตัวที่เจอกันทุกวัน คนรุ่นใหม่ และคนที่เคยสู้ด้วยกัน เขาลืมมันไปหรือยัง”

“เราเข้าใจเหตุผลที่แบมกับตะวันเลือกทำ แต่เราก็รู้สึกกดดัน อยากให้มีอะไรเปลี่ยนแปลง อยากให้คนมาช่วยแบมกับตะวันหน่อย”



ป้าป้อม แม่ครัวทะลุฟ้า

“เขาเพิ่งจะออกมา ป้ายังดีใจไม่หายเลย แต่ก็กลับเข้าไปอีกแล้ว สงสารเขา และอยากจะบอกว่าประเทศนี้ใจร้ายเหลือเกิน ไม่น่าเป็นไปได้เลยนะ กับเด็กอายุเท่านี้เอง”

“ตอนที่เขาออกมา ป้าเคยบอกตะวันว่า ถอดกำไลเมื่อไหร่ไปกินข้าวบ้านป้านะ อยากกินอะไรป้าจะทำให้กิน แต่ยังไม่ทันได้กิน เขาก็กลับเข้าไปอดอาหารอีกแล้ว คิดถึงเขาแหละ วันที่เขากลับเข้าไป ป้าทำงานอยู่ต่างจังหวัด พอกลับมากรุงเทพฯ ก็ต้องมายืนหยุดขังให้แบบนี้แล้ว”



ทนายอานนท์ นำภา

“ผมห่วงใยน้องๆ ที่กำลังใช้สันติวิธีต่อสู้อยู่ ที่เราต่อสู้ก็เพราะอยากให้สังคมมันดีงามขึ้น อยากให้กำลังใจ และบอกเขาว่าพวกเราทุกคนจะร่วมกันสู้ ข้างนอกเรือนจำและข้างในเรือนจำต้องสู้ไปด้วยกัน และหวังว่าพวกเราจะออกมาเจอกันข้างนอกในเร็ววัน”

“การถกเถียงกันเรื่องวิธีการของน้องๆ ก็เป็นเรื่องที่ถูกแล้วครับ เพราะสันติวิธีและการอดอาหารเป็นการเรียกร้องจากสำนึกที่อยู่ข้างในว่า ตกลงเราจะอยู่กันอย่างนี้ต่อไปหรือ คือวิธีการมันถกเถียงได้ แต่ข้อเรียกร้องสามข้อของน้อง เราอาจจะต้องยกขึ้นมาและเถียงกันให้มากขึ้นอีก”

“มันมีช่องทางในการแสดงออกหลากหลาย สะดวกมายืนก็มา จะแชร์ข้อมูลในโซเชียลมีเดียก็แชร์ไป สะดวกไปเยี่ยมน้องๆ ที่เรือนจำก็ไป หรือแสดงจุดยืนในเรื่องอื่นๆ ก็ทำได้ เอาที่สะดวก”



ลุงดำ

“ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆ ได้สู้เรียกร้องความยุติธรรมต่อไป ผมยอมรับความคิดของน้องๆ และรู้สึกเป็นห่วงมาก แต่อยู่ข้างนอกนี้ก็จะเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับน้องๆ ต่อไป”

"ผมมายืนหยุดขังที่หน้าหอศิลป์ฯ ตั้งแต่เมื่อคืน ที่ออกมาก็เพราะไม่เห็นความเป็นธรรมจากสิ่งที่เกิดขึ้นเลย ทุกคนที่ออกมาวันนี้ก็เพื่อเป็นกำลังใจให้กัน ต่างคนต่างมา แต่มีความรู้สึกแบบเดียวกัน มันอึดอัด กาเป็นสีดำ แต่จะบังคับให้มันเป็นสีขาว แล้วขังเขาไว้ มันไม่ถูกต้อง”



ป้าตุ๊ก-ป้าลิน-ป้าถิน

ป้าลิน : ป้าคิดถึงและเป็นห่วง ที่พวกเรามาก็เพื่อเป็นกำลังใจให้เด็กๆ เป็นห่วงน้องมาก

ป้าถิน : ตอนนี้น้องเป็นยังไงบ้างเราไม่รู้เลย ไม่รู้จะทำยังไงได้เพราะเราอยู่ข้างนอก เมื่อวานพวกป้าไปยืนหน้าเรือนจำกัน ก็ไม่ได้เห็น ได้แต่ส่งเสียงเข้าไป

ป้าตุ๊ก : กลุ่มเรามีอยู่ 16-17 คน ไปยืนอยู่หน้าเรือนจำตั้งแต่ห้าโมง แต่ข่าวไม่มีออกหรอก ทั้งที่มีคนไปยืนหลายจุดนะ

ป้าลิน : พวกเรามาเอง เป็นคนแก่อิสระ มากันจากคนละทิศละทาง บางทีก็โทร.หากันว่าใครว่างก็ให้มานะ ใครมาไม่ได้ก็พักบ้าง แก่แล้ว พวกเราคิดว่าน้องจะทำอะไร ก็จะคอยช่วยอยู่ข้างหลัง เขาคิดมาดีแล้วเขาถึงทำ

ป้าตุ๊ก : คือถามว่าเห็นด้วยไหม ก็ไม่เห็นด้วยหรอก ชีวิตน้องเขามีค่ามากกว่านั้น ไอ้คนบางพวกมันไม่รู้คุณค่าของชีวิตคน ถึงจะมีใครจะเสียชีวิตไป มันก็มีคนที่ไม่ได้แคร์อะไรเราอยู่ดี แต่เราถือว่าน้องตัดสินใจเด็ดเดี่ยว น้องหลายคนเป็นนักโทษทางความคิด แค่คิดต่างจากเขา แต่น้องไม่ใช่ฆาตกร ทำไมถึงไม่ได้รับสิทธิประกันตัว



ป้าเป้า

“ยายอยากจะบอกให้เขากินข้าวกินน้ำ ไม่อยากให้เขาทรมานตัวเอง ประเทศนี้ขออะไรก็ไม่ให้ มีแต่จะยื่นความตายให้พวกเรา”

“สู้ในแบบของแบมกับตะวัน เป็นการสู้แบบให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ยายก็เป็นห่วง เพราะเขายังเด็ก อย่างยายเนี่ย ตายไปเถอะ แก่แล้ว ยังไงคนทุกคนก็ต้องตายจากกัน แต่ชีวิตของน้องๆ ยังอีกไกล อย่าไปรังแกเด็กเลย”



ลาดู จากบุ๊กคลับ A Dead Poet Society

“ผมทำโปรเจกต์บุ๊กคลับ เพราะอยากแชร์หนังสือของเราให้คนได้อ่าน หรือถ้าใครอยากจะแชร์หนังสือเล่มไหนให้เราอ่านด้วยก็ได้ จะได้มาร่วมแบ่งปันกัน ใช้ชื่อว่า A Dead Poet Society”

“เราพยายามดันโปรเจกต์นี้อยู่เรื่อยๆ แต่ครั้งนี้เป็นบุ๊กคลับเฉพาะกาลที่เราออกมาร่วมกับกิจกรรมยืนหยุดขัง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องให้กับเพื่อนเราที่ไม่ได้รับอิสรภาพ และถูกรัฐกดขี่ คนที่มาร่วมสามารถมาหยิบหนังสือไปอ่านขณะยืนหยุดขังได้ หรือถ้าใครอยากพูดคุยอะไรเกี่ยวกับหนังสือ เราก็ยังเป็นพื้นที่ให้เข้ามาพูดคุยได้”

“ถ้าผมจะบอกอะไรกับเพื่อนที่ถูกขังอยู่ได้ คงไม่มีอะไรมากกว่า ขอให้เขาปลอดภัย และอยากให้รู้ว่าข้างนอกยังมีความรักมากมายมหาศาลรอพวกคุณอยู่”



ขิม

“อยากบอกว่าเคารพในการต่อสู้ของทั้งสองคน ในความเศร้าและความเป็นห่วง ก็รู้สึกว่ายังมีคนที่สู้อยู่ เราก็จะพร้อมสู้ต่อไปเรื่อยๆ”

“พูดตามตรง ในใจเราก็ไม่อยากให้เกิดความทรมาน หรือความสูญเสียอยู่แล้ว แต่เราก็ไม่สามารถไปห้ามเขาได้ เพราะมันเป็นการตัดสินใจของเขา เราทำได้แค่ซัพพอร์ตและต้องพยายามสตรองเอาไว้ เพราะถ้าคนข้างนอกล้ม คนข้างในก็จะพังไปด้วย”

“ในฐานะประชาชน สิ่งที่เราทำได้คือการแชร์ข่าว ถ้าไม่สะดวกออกมาก็ช่วยกันพูดเรื่องนี้ไปเรื่อยๆ หรือถ้าสะดวกก็ออกมาส่งเสียง มันเป็นสิทธิของเราที่จะเรียกร้อง”

 

{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยฟูลนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.