ข่าวการเมือง "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

สำรวจความเห็นและท่าทีของพรรคการเมืองต่อมาตรา 112


  • การอดอาหารประท้วงของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ สองนักกิจกรรมที่โดนคดีมาตรา 112 จากการทำขบวนเสด็จ มีข้อเรียกร้องหนึ่งคือ ให้พรรคการเมืองแสดงจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 และ 116
  • ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองแสดงจุดยืนเรื่องมาตรา 112 ไว้ โดยเริ่มจากการแถลงนโยบายของพรรคก้าวไกลว่าจะมีการแก้ไขมาตรา 112 ทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ ต้องออกมาแสดงจุดยืนในช่วงไล่เลี่ยกัน


ในการอดอาหารประท้วงของ ตะวัน-ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ แบม-อรวรรณ ภู่พงษ์ สองนักกิจกรรมที่โดนคดีมาตรา 112 จากการทำขบวนเสด็จ นอกจากเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากคดีทางการเมืองทั้งหมด ทั้งคู่ยังประกาศข้อเรียกร้องไว้ 3 ข้อ 

ข้อที่ 3 มีใจความว่า พรรคการเมืองทุกพรรคเสนอนโยบาย เพื่อประกันสิทธิเสรีภาพและการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยยกเลิกมาตรา 112 และ 116 

ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา หลายพรรคการเมืองแสดงจุดยืนเรื่องมาตรา 112 ไว้ โดยเริ่มจากการแถลงนโยบายของพรรคก้าวไกลว่าจะมีการแก้ไขมาตรา 112 ทำให้พรรคการเมืองอื่นๆ ต้องออกมาแสดงจุดยืนในช่วงไล่เลี่ยกัน


ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า 

โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กถึงเรื่องมาตรา 112 ล่าสุดว่า เรื่องของตะวันและแบม คือเรื่องของทุกคน การเรียกร้องสิทธิให้ผู้ต้องหามาตรา 112 คือการยืนยันสิทธิของคนไทยทุกคน และสิทธิประกันตัวเป็นสิทธิมนุษยชน โดยส่วนหนึ่งของข้อความระบุชัดเจนว่า 

“ผมสนับสนุนข้อเสนอทั้งสามข้อ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าอย่างยิ่งที่ในประเทศไทย ตะวัน และแบม ต้องใช้ร่างกายของตัวเองเป็นเครื่องมือต่อสู้เรียกร้องเพื่อให้ได้สิทธิพื้นฐานเหล่านี้” และ “อย่ารอจนกว่าจะถึงวันที่ลูกหลานของเราต้องรณรงค์ประท้วงด้วยชีวิตของพวกเขา จึงค่อยตระหนักว่ากระบวนการยุติธรรมที่เที่ยงธรรม สำคัญต่อเราแค่ไหน”

พรรคก้าวไกล 

เป็นพรรคการเมืองที่เคลื่อนไหวเรื่องมาตรา 112 มากกว่าพรรคอื่น ย้อนไปเมื่อ 15 ตุลาคม 2565 พรรคก้าวไกลเปิดตัวชุดนโยบาย ‘การเมืองไทยก้าวหน้า’ โดนหนึ่งในนั้นคือการผลักดันให้มีการแก้ไขมาตรา 112

ล่าสุด 22 มกราคม อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โพสต์ถึงจุดยืนของพรรคก้าวไกลว่า “มาตรา 112 มีปัญหาในทุกมิติ ทั้งตัวบทกฎหมายและการบังคับใช้ พรรคก้าวไกลจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อแก้ไขมาตรา 112 โดยข้อเสนอแก้ไข มาตรา 112 ของเราเป็นข้อเสนอที่พอจะพูดคุยกันกับทุกฝ่ายด้วยเหตุและผลได้”

แต่อมรัตน์ก็เน้นว่า เรื่องการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นเรื่องที่สภาฯ ต้องร่วมมือกัน เพราะหากไม่ร่วมมือกัน “สังคมก็จะเหลือเพียงตัวเลือกสุดท้าย คือ การยกเลิกมาตรา 112 ไปอย่างถาวร ตามข้อเรียกร้องของประชาชนนอกสภาฯ”

พรรคก้าวไกลเคยยื่นเสนอร่างแก้ไขมาตรา 112 เข้าสู่สภาฯ เมื่อ 10 กุมภาพันธ์ 2564 โดยสาระสำคัญของการแก้ไขคือ ย้ายความผิดตามมาตรา 112 ออกจากหมวดความผิดต่อความมั่นคงของรัฐ

- ลดอัตราโทษลงอย่างมาก ไม่กำหนดโทษขั้นต่ำ รวมทั้งสามารถพิจารณาลงโทษปรับแทนการจำคุก เพื่อให้ได้สัดส่วนกับความผิด 

- เพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลทั่วไปนำฐานความผิดนี้ไปใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง กลั่นแกล้งผู้อื่น หรือนำไปใช้โดยไม่สุจริต

- บทยกเว้นความผิดและยกเว้นโทษ เช่น กรณีการติชม แสดงความคิดเห็นโดยสุจริต 

พรรคเสรีรวมไทย 

คืออีกพรรคหนึ่งที่พูดว่ามาตรา 112 มีเรื่องต้องแก้ไข โดย 22 ตุลาคม 2565 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวว่า พรรคเสรีรวมไทยยืนยันถึงแนวทางสายกลางๆ ว่าจะไม่ยกเลิก แต่เห็นด้วยว่าควรมีการปรับในรายละเอียดเล็กน้อย เช่น ไม่ใช่ใครก็ไปแจ้งความได้ ควรให้ตัวแทนจากสำนักพระราชวังดำเนินการ หรือลดจำนวนบทลงโทษจำคุก

พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวในวงเสวนา ‘Never Say Never: ถกปัญหา-หาทางออก 2 ปี การกลับมาของมาตรา 112’ เมื่อ 20 พฤศจิกายน 2565 ว่า ตัดอาฆาตมาดร้ายออกไป ให้มาตรา 112 เหลือแค่การดูหมิ่น หมิ่นประมาท ส่วนอัตราโทษไม่เกิน 3 ปี เดิมจาก 3-15 ปี ซึ่งอยู่ดุลยพินิจของผู้พิพากษาว่าจะ 10 วัน 1 ปี หรือ 2 ปี

พรรคภูมิใจไทย 

อนุทิน ชาญวีรกูล โพสต์ข้อความในช่วงที่พรรคก้าวไกลนำเสนอชุดนโยบายว่า พรรคภูมิใจไทยคัดค้านการแก้มาตรา 112 และพรรคตั้งขึ้นมาโดยมีอุดมการณ์ทางการเมือง ปกป้องสถาบันสำคัญของชาติเป็นข้อแรก เป็นหัวใจในการทำงานของพรรค และเป็นอุดมการณ์ที่สมาชิกพรรคภูมิใจไทยทุกคนยึดถือเป็นหลักในการทำงานรับใช้พี่น้องประชาชน 

อนุทินย้ำจุดยืนว่าพรรคภูมิใจไทยไม่มีนโยบายมาตรา 112 และไม่เข้าใจว่าผู้เสนอแก้ไขเดือดร้อนอะไรกับกฎหมายนี้ รวมทั้งเน้นว่า จะไม่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคการเมืองที่มีแนวคิดแก้ไขมาตรา 112

“ถ้าเราไม่คิดทำผิดกฎหมาย ทำไมต้องกลัวรับโทษทางกฎหมาย ผมเชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ ไม่รู้สึกว่ากฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นปัญหาอุปสรรคในการดำเนินชีวิต ใช้ชีวิตประจำวัน จะมีก็แต่กลุ่มคนที่คิดจะท้าทาย คิดจะทำผิดกฎหมาย แต่ก็กลัวโทษตามกฎหมาย จึงมาเรียกร้องให้แก้กฎหมาย ให้สิ่งที่ตนจะทำเป็นสิ่งไม่ผิดกฎหมาย ไม่ต้องรับโทษ”


พรรคประชาธิปัตย์ 

ออกมาแสดงความคิดเห็นในช่วงไล่เลี่ยกัน โดย 16 ตุลาคม 2565 ราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ บอกว่า พรรคไม่มีนโยบายที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 112 โดยพรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบบการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เนื้อหาสาระสำคัญของมาตราดังกล่าวนั้น ไม่ได้ไปสร้างความเสียหาย ความไม่เป็นธรรม ให้กับใคร ต้องมองที่การกระทำของบุคคลมากกว่าตัวบทกฎหมาย หากมีการกระทำที่เป็นความผิดก็ให้ว่าไปตามกฎหมาย และเป็นการกระทำความผิดส่วนตัว ไม่ใช่กฎหมายมีปัญหา ความคิดและการกระทำของคนต่างหากที่มีปัญหา เมื่อมีการก้าวล่วง จาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์ผิดถูกก็ต้องว่ากันตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย

“ชัดเจนว่า มาตรา 112 ไม่ได้ขัดหรือแย้งต่อหลักนิติธรรมหรือรัฐธรรมนูญ แต่อาจจะขัดใจผู้ที่คิดไม่ดีต่อบ้านเมือง พรรคการเมืองใดยื่นแก้ไข ก็ขอให้กลับไปอ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญให้ดี เพราะได้เคยวินิจฉัยอธิบายความสำคัญของมาตรา 112 ไว้แล้ว”

พรรคเพื่อไทย

ก็กล่าวถึงนโยบายของก้าวไกล โดย สุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า เป็นจุดยืนของแต่ละพรรค ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ สำหรับเพื่อไทยทำนโยบายทุกด้าน แต่ให้ความสำคัญเร่งด่วนกับเรื่องปากท้องเศรษฐกิจ และความมั่นคงทางการเงินการคลังของประเทศ รวมทั้งการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงให้เกิดกับสังคมไทย

หลังจากนั้น วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กตอบคำถามเรื่องมาตรา 112 โดยแสดงความเห็นว่า มาตรา 112 เป็นกฎหมายเพื่อคุ้มครองประมุขแห่งรัฐ ส่วนตัวเห็นว่ามีได้ เพราะหลายๆ ประเทศก็มี แต่ยังมีเรื่องที่ต้องพูดกันด้วยเหตุผล คือ เนื้อหา และการบังคับใช้ ควรทบทวนกำหนดโทษขั้นต่ำ และการบังคับใช้ ไม่ใช่ให้ใครก็ได้สามารถแจ้งความดำเนินคดี รวมทั้งการใช้ดุลยพินิจในการให้ประกันตัวผู้ถูกกล่าวหาระหว่างพิจารณาคดี 

สำหรับกรณีของ ตะวัน-ทานตะวัน และ แบม-อรวรรณ ณัฐวุฒิโพสต์เฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 22 มกราคม ว่า “ผมยังเชื่อเช่นเดิมว่า การเอาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่เคลื่อนไหวอยู่ขณะนี้ไปขังไม่ใช่การแก้ปัญหา แม้ห่วงใยแนวทางการต่อสู้ของพวกเขาอยู่ แต่ก็เคารพการตัดสินใจ และหวังใจว่าสถานการณ์ของตะวันกับแบม ซึ่งกำลังอดอาหารอดน้ำอยู่ในเรือนจำ จะคลี่คลายโดยเร็ว ทุกคนรู้ว่า 3 ข้อเรียกร้องของทั้งคู่ คงยากจะสำเร็จลงในระยะเวลาอันสั้น ไม่ทันกับสภาพร่างกายเด็กสาว 2 คนที่เคี่ยวกรำตัวเองมา 5 วันแล้ว ผมจึงขอเสนอข้อเรียกร้องที่ทำได้ทันที ระงับสถานการณ์ที่อาจบานปลายได้ทันเวลา คือปล่อยทั้ง 2 คนและเพื่อนๆ ที่ติดคุกอยู่ออกมาเสียก่อน” และลงท้ายว่า 

“เด็กๆ ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย ข้อนี้ผมไม่ปฏิเสธ แต่เด็กพวกนี้ไม่ใช่อาชญากร ผมเชื่อเช่นนั้น ปล่อยเด็กออกจากคุกเถอะครับ”

ทักษิณ ชินวัตร 

เคยกล่าวถึงมาตรา 112 ไว้ในปี 2564 แต่ถ้อยคำของทักษิณถูกวิจารณ์อย่างหนัก เพราะทักษิณมีความเห็นกับมาตรา 112 ว่า “ตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา” ทำให้หลายคนเห็นว่า แนวทางของทักษิณและเพื่อไทยเน้นเรื่องปากท้องและเศรษฐกิจ แต่จะไม่แตะต้องกฎหมายที่ผู้สนับสนุนเพื่อไทยส่วนหนึ่งมองว่าเป็นปัญหาสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้

“ผมขอแนะนำว่าก่อนจะมาบอกว่าจะแก้มาตรา 112 หรือไม่ ขอให้ไปเริ่มย้อนคิดว่า เมื่อตัวกฎหมายไม่เคยมีปัญหา แต่คนที่เป็นปัญหาคือคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมและคนที่นำประเด็นนี้มาสร้างความแตกแยกในสังคมต่างหาก ถ้ามีการจัดระเบียบให้ถูกต้องและมีการพูดคุยกับผู้เห็นต่างบ้าง ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นทีดี และนำไปสู่การรักษากฎหมายที่เป็นธรรม และก็จะไม่มีใครเดือดร้อน แต่วันนี้ ขอย้ำอีกครั้งว่าประเทศขาดการบริหารการจัดการ เลือกที่จะใช้ law and order เท่านั้น ขอให้ทั้งสองฝ่ายหยุดดราม่า หายใจยาวๆ มาเริ่มต้นใหม่ตามที่ผมแนะนำเบื้องต้น เพื่อความรัก เพื่อการถวายความจงรักภักดีที่ถูกต้อง ถูกทาง ไม่ให้เจ้านายต้องถูกครหาโดยที่ไม่รู้”

พรรคไทยภักดี 

เป็นพรรคการเมืองที่ไม่เพียงสนับสนุนมาตรา 112 แต่ยังเสนอให้มีการแก้ไขให้ครอบคลุมและเข้มงวดมากขึ้น โดยวันที่ 3 ธันวาคม 2565 ในวงเสวนา ‘เพิ่มมากกว่าแก้ ม.112 ไม่คิดล้มล้าง ทำไมต้องกลัว’ พรรคไทยภักดีแถลงว่า มาตรา 112 ควรเพิ่มความคุ้มครองมากขึ้น เพราะขบวนการล้มล้างใช้วิธีพลิกแพลงท้าทายกฎหมาย และมีการตัดสินว่า การหมิ่นคำว่า ‘สถาบันพระมหากษัตริย์’ ไม่เป็นความผิดตามมาตรา 112 ทั้งๆ ที่องค์พระมหากษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของสถาบันพระมหากษัตริย์

ดังนั้น พรรคไทยภักดีจึงเห็นว่า สมควรที่จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้คุ้มครองครอบคลุม เพื่อรักษาหลักนิติรัฐ ตามหลักรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 6 ที่ได้บัญญัติไว้ว่า องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆ มิได้ โดยจะแก้ไขให้มาตรา 112 เพิ่มการคุ้มครองให้ครอบคลุมถึง สถาบันพระมหากษัตริย์ อดีตพระมหากษัตริย์ในพระบรมราชจักรีวงศ์ และพระบรมวงศานุวงศ์ตั้งแต่ชั้นพระองค์เจ้าขึ้นไป

 

{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยฟูลนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.