“แพทองธาร” แจง งบซอฟต์พาวเวอร์ต้องมีอีกหลายขั้น ชี้งบฯ 5,100 ล้านบาท ไม่ได้ขอเพิ่ม เป็นของแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว บอกอีเวนต์สงกรานต์ไล่จัดกิจกรรม ไม่ใช่สาดน้ำทั้งเดือน ขอมูฟออนคำนิยามซอฟต์พาวเวอร์ ยินดี “มาดามเดียร์-มาดามแป้ง” ชิงตำแหน่งสำคัญ สะท้อนความเท่าเทียมทางเพศ
วันที่ 6 ธ.ค. 2566 เมื่อเวลา 14.20 น. ที่ รร.เดอะ กรีนเนอร์รี รีสอร์ท เขาใหญ่ จ.นครราชสีมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดสัมมนา สส.พรรคพท.ว่า เกินความคาดหมาย เพราะทางทีมงานจัดกิจกรรมได้สนุกสนาน และทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เป็นการละลายพฤติกรรม และทุกคนจะได้พุดคุยกันง่ายขึ้น ซึ่งพาร์ทต่อไปจะเริ่มซีเรียสขึ้นแล้ว เมื่อถามถึงกรณีงบประมาณในการจัดทำซอฟต์พาวเวอร์กว่า 5,100 ล้านบาทว่า ชุดขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ที่ตนเป็นประธาน ขั้นตอนต่อไปคือเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ชุดใหญ่ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ เป็นประธาน ก่อนจะพิจารณาเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งคาดว่างบจะเสร็จสิ้นในเดือน พ.ค.67 สำหรับงบประมาณ 5,100 ล้านบาท เป็นงบประมาณที่ใช้ใน 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ โดยไม่ได้ของบประมาณเพิ่ม เนื่องจากเป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงที่เกี่ยวข้องอยู่แล้ว ไม่ได้เป็นตัวเลขที่รัฐบาลคิดขึ้นมา แต่เป็นงบประมาณที่มาจากผู้รู้จริงในแต่ละสาขานั่นคือภาคเอกชน และรัฐบาลเป็นเพียงผู้อำนวยความสะดวก อีกทั้งภาคเอกชนก็มีความตั้งใจทำ และระมัดระวังเรื่องการใช้งบประมาณอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าจากเสียงวิพากษ์วิจารณ์จะมีโอกาสปรับลดงบประมาณลงหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ต้องรอดูคณะกรรมการชุดใหญ่จะเห็นควรอย่างไร แน่นอนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์เรารับฟัง และดีใจที่ทุกคนให้ความสนใจกับ 11 อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ เพราะมีความหลากหลาย และเมื่อมีคนสนใจเชื่อว่าอุตสาหกรรมเหล่านี้ต้องแข็งแรงและดีขึ้นอย่างแน่นอน โดยงบประมาณที่จะดึงมาจากกระทรวงหลักๆ คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรม ย้ำว่าเป็นงบที่อยู่ในแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว และนำมาจัดแจงว่าจะนำไปดำเนินการอย่างไรบ้าง เมื่อถามถึงกรณีที่มีเสียงวิจารณ์แนวคิดในการจัดงานสงกรานต์ตลอดเดือน เม.ย. น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ตนได้สื่อสารไปในช่องทางเฟซบุ๊ก และเห็นการตีความมาว่าสาดน้ำกันทั้งเดือน ซึ่งส่วนตัวมองว่าก็คงจะหนาวเหมือนกัน หากสาดน้ำทั้งเดือน แต่ในความเป็นจริงไม่ใช่แบบนั้น จะเป็นการจัดกิจกรรม 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยวันที่ 13-15 เม.ย. ที่เป็นวันสงกรานต์จะมีกิจกรรมเหมือนเช่นที่จัดขึ้นทุกปี เพียงแต่การจัดกิจกรรมที่จะจัดขึ้นตลอดทั้งเดือน เป็นการดึงนักท่องเที่ยวให้มีจุดเที่ยวในประเทศไทยยาวนานขึ้น อยู่นานขึ้น นั่นคือจุดมุ่งหมาย พร้อมย้ำด้วยว่าการสาดน้ำ 30 วันคงจะเป็นไปไม่ได้ มันไม่ใช่อย่างนั้น ขอให้ทุกคนไปอ่านให้ดี
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุว่า ซอฟต์พาวเวอร์ที่จริงแล้ว คือ น.ส.แพทองธาร ไม่ใช่สิ่งอื่นใด โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า นี่เป็นการให้เกียรติกัน ก็ต้องขอขอบคุณมาก และอย่างที่ตนพูดไปทุกเวทีว่าซอฟต์พาวเวอร์ไม่ใช่สินค้า แต่เราจะทำให้สินค้าของไทยสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ตนอาจจะพูดไปพูดมาหลายครั้ง ทำให้เกิดการงงกันบ้าง แต่ถ้าตามดูการให้สัมภาษณ์ของตนที่ไม่ได้ฟังเพียงแค่ท่อนเดียว จะเข้าใจว่าตนสื่อแบบนี้มาตลอดว่าซอฟต์พาวเวอร์ ไม่ใช่สินค้า หรือไม่ใช่ชี้อะไรก็เป็นซอฟต์พาวเวอร์ไปหมด และเมื่อเกิดพลังอำนาจที่ทำให้คนคล้อยตามโดยไม่ต้องบีบบังคับนั่นแหละคือซอฟต์พาวเวอร์ และอยากให้ทุกคนมูฟออนคำนิยามของซอฟต์พาวเวอร์ได้แล้ว เพราะเรากำลังทำเรื่องที่ใหญ่กว่านั้น เพื่อพัฒนาประเทศ เรามองไปที่จุดข้างหน้า แล้วปักหมุดแล้วว่าจะดันซอฟต์พาวเวอร์ให้คนทั่วโลกรู้จักเรา เข้าใจและชอบวัฒนธรรมของไทย นี่คือสิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เราไม่ได้พยายามนิยามคำว่าซอฟต์พาวเวอร์
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวถึงกรณีที่ น.ส.วทันยา บุนนาค ลงสมัครหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนางนวลพรรณ ล่ำซำ ลงสมัครนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่าการที่ผู้หญิงเข้ามามีบทบาทเป็นเรื่องที่ดี เพราะภาพจำของคนไทยในอดีตมองว่าอาชีพนั้นหรืออาชีพนี้เหมาะกับเพศชายเท่านั้น แต่เธอมองว่านิยามเหล่านั้นไม่สามารถใช้ได้ในปัจจุบันแล้ว ทั้งผู้หญิงและผู้ชายมีสิทธิ์ในทุกๆ อาชีพเมื่อมีใจรักมีความสามารถ และได้รับโอกาส เพราะฉะนั้นจะผู้หญิง หรือผู้ชาย ก็สามารถทำได้หมด ส่วนตัวรู้สึกยินดีที่มีผู้หญิงเข้ามาเสนอตัวทำงานในตำแหน่งสำคัญๆ ทางด้านการเมือง และด้านอื่นๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องหมายว่าผู้หญิง และผู้ชาย ทำได้เท่ากัน แต่ไม่ได้แปลว่าผู้หญิงทำทั้งหมด เป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคนมีสิทธิ์เท่ากัน
เมื่อถามว่าหากมาดามเดียร์ได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์จะถือว่ากลายมาเป็นคู่แข่งทางการเมืองกันหรือไม่ นางสาวแพทองธาร ระบุว่า ส่วนตัวไม่คิดอย่างนั้น เพราะมองว่าหากใครได้เป็นหัวหน้าพรรคก็ถือว่าเป็นงานสำคัญในพรรคประชาธิปัตย์ และจะไม่ใช่ภาพลักษณ์ของการแข่งขันกันระหว่างผู้หญิง.