“ร.อ.ธรรมนัส” ห่วงพะยูนเกยตื้นตาย สั่งด่วนกรมประมงตรวจสอบ แก้ปัญหา พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมมือป้องกันเต็มที่ ไม่ให้มีกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม
วันที่ 9 ก.ย. 2566 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามที่มีเหตุการณ์ชาวบ้านในพื้นที่บ้านเกาะมุกด์ จ.ตรัง ร่วมกันช่วยเหลือพะยูนเกยตื้น เมื่อวันที่ 5 กันยายน ที่ผ่านมา และล่าสุด เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ชาวบ้านเกาะจำ ต.เกาะศรีบอยา อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้พบซากพะยูนตายลอยอยู่ในทะเลบริเวณ หลังเกาะจำนุ้ย 1 ตัว นั้น จากการตรวจสอบย้อนหลังยังทราบว่า ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตั้งแต่ช่วงต้นปีจนจึงปัจจุบัน ชาวบ้านได้พบซากพะยูน จำนวน 6-7 ตัวแล้ว
ทั้งนี้ การพบซากพะยูนในจำนวนมากดังกล่าวถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรทางทะลที่มีคุณค่า เนื่องจากพะยูน เป็นสัตว์สงวนชนิดหนึ่งตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ดังนั้นตนจึงได้สั่งการให้กรมประมง เข้าไปติดตามตรวจสอบหาสาเหตุการเกยตื้นตายอย่างเร่งด่วน และให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะกรมทรัพยกรทางทะเลและชายฝั่ง รวมถึงหน่วยงานอื่นๆ ที่สามารถอำนวยความสะดวกเรื่องการออกตรวจหรือช่วยเหลือทางเรือ เป็นต้น รวมถึงอาสาสมัครอนุรักษ์สัตว์น้ำ ผู้นำองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อร่วมมือกันดำเนินมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นอีก อีกทั้งได้กำชับให้ประมงจังหวัดทั้ง 22 จังหวัด 109 อำเภอ ชายทะเลดำเนินการตามมาตรการอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง
“การติดตามเฝ้าระวังการทำการประมงเพื่อไม่มีกระทบต่อสัตว์ทะเลหายากและสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนม เช่น พะยูน โลมา เป็นต้น เป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ จะช่วยให้มีชีวิตอยู่คู่ทะเลไทยตลอดไป อีกทั้งยังเป็นการดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรการสหรัฐอเมริกาคู่ค้าสินค้าประมงอันดับหนึ่งของไทย ที่ออกกฎเกณฑ์จะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 ม.ค. 67 สินค้าประมงที่ส่งออกจะต้องไม่ใช้เครื่องมือประมงที่มีผลกระทบต่อสัตว์ทะเลเลี้ยงลูกด้วยนมอีกด้วย”
