“วิษณุ เครืองาม” ชี้ “ทักษิณ” มี สิทธิเหมือนนักโทษเด็ดขาดทั่วไป หลังได้รับการอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี ทั้งการได้รับการอภัยโทษตามโอกาสพิเศษต่างๆ และการขอพักโทษ แต่ยังไม่มีการ ทำเรื่องขอมา ด้านแหล่งข่าวระดับสูง ยธ. แจงเรื่องการพระราชทานอภัยโทษตามวันสำคัญเป็นเรื่องพระราชอำนาจ ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่า ในวันสำคัญต่างๆจะมีพระราชทานอภัยโทษ หรือพระราชทานอภัยลดโทษหรือไม่ เป็นสิ่งที่มิอาจก้าวล่วง แต่ “ทักษิณ” เข้าเกณฑ์ผู้ต้องขังสูงวัย มีโรคประจำตัว มีโอกาสได้รับการพิจารณาพักโทษเหมือนนักโทษเด็ดขาดคนอื่น แต่ต้องผ่านคณะกรรมการพิจารณาหลายขั้นตอน เผย “ทักษิณ” หอบเอกสารยื่นขอพระราชทานอภัยโทษตั้งแต่วันที่เดินทางกลับมามอบตัวที่ประเทศไทย แล้ว แต่เอกสารต้องถูกตรวจสอบกลั่นกรองก่อน ด้าน “พิธา” ให้ความเห็นกรณี “ทักษิณ” ได้พระราชทานอภัยลดโทษ เป็นสิทธิที่จะขอได้ แต่ฝากรัฐบาลดูระบบ ยุติธรรมให้เท่าเทียมกัน
กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปี เข้ามอบตัวรับโทษในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ตามคำพิพากษา 3 คดี รวม 8 ปี ตรวจร่างกายเบื้องต้นพบมีโรคประจำตัว 4 โรค ระหว่างอยู่ในเรือนจำอาการป่วยกำเริบ แน่นหน้าอก ความดันสูง ประกอบกับเป็นโรคหัวใจ ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ไม่มีแพทย์เฉพาะทาง ตัดสินใจส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ จนมีกระแสต่อต้านกล่าวหาว่าไม่ได้ป่วยจริง หลังจากนั้นนายทักษิณทำหนังสือยื่นขอพระราชทานอภัยโทษ ต่อมาเว็บไซต์ราชกิจจา นุเบกษาเผยแพร่พระราชหัตถเลขาพระราชทานอภัยลดโทษนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จากโทษจำคุก 3 คดี รวมเวลา 8 ปี เหลือ 1 ปี ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้นความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 ก.ย. ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์สอบถามนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการ รมว.ยุติธรรม กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับการอภัยลดโทษเหลือโทษจำคุก 1 ปีแล้วมีสิทธิขอรับการพักโทษหรือลดโทษอีกหรือไม่ว่า ขณะนี้กรณีนายทักษิณเหมือนถูกศาลตัดสินให้จำคุก 1 ปี นักโทษที่ถูกตัดสินจำคุก 1 ปีมีสิทธิอะไรนายทักษิณก็มีสิทธิเช่นเดียวกันทุกประการ เช่น ขอพักการลงโทษเมื่อถึงกำหนดเวลาตามที่กฎหมายกำหนด เข้าใจว่าเป็น 1 ใน 3 หรือ 4 เดือน รวมถึงกรณีหากมีการออกพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษเป็นการทั่วไปในโอกาสต่างๆ นายทักษิณก็จะได้สิทธิประโยชน์นั้นด้วย ถามว่า ขณะนี้นายทักษิณทำเรื่องขอพักโทษแล้วหรือยัง นายวิษณุตอบว่า ยังไม่ทำและยังทำไม่ได้ เพราะต้องรับโทษมาระยะหนึ่งก่อนจึงสามารถทำเรื่องขอจากคณะกรรมการการพักโทษที่มีตัวแทนจากภาคส่วนต่างๆให้พิจารณาได้
ด้านกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เวลา 11.00 น.แหล่งข่าวระดับสูงในกระทรวงยุติธรรม เผยถึงประเด็นการขอพักโทษของนายทักษิณ ชินวัตร หลังได้รับการอภัยลดโทษเหลือ 1 ปีกว่า เดิมคดีนายทักษิณ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำพิพากษาจำนวน 3 คดีคือ คดีที่ 1 ความผิดต่อหน้าที่ราชการ กำหนดโทษจำคุก 3 ปี คดีที่ 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ กำหนดโทษจำคุก 2 ปี ซึ่งคดีที่ 1 กับคดีที่ 2 นับโทษซ้อนกัน รวมกำหนดโทษจำคุก 3 ปี (ให้นับโทษสูงสุดแทน) และคดีที่ 3 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ การขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวมกำหนดโทษจำคุก 5 ปีรวมกำหนดโทษจำคุก 8 ปี เมื่อมีพระราชทานอภัยลดโทษรวมมาจึงเหลือเพียงปีเดียว เท่ากับนายทักษิณเหลือโทษจำคุกเพียง 1 ปี
“หลังจากนั้นอาจต้องไปดูในเรื่องระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจำแนกลักษณะผู้ต้องขังและการแยกคุมขัง การเลื่อนหรือลดชั้นนักโทษเด็ดขาด การลดวันต้องโทษจำคุกและการพักการลงโทษ พ.ศ.2559 แต่แน่นอนว่ากรณีนายทักษิณ เนื่องด้วยเดินทางกลับเข้าประเทศไทยในช่วงเกณฑ์ที่ 1 ปีมีการปรับ 3 ครั้ง (สำหรับโทษไม่เกิน 3 ปี) จะเกิดขึ้นในเดือน ส.ค. ทำให้นายทักษิณจากที่เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางถูกปรับเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีโดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตามหากผู้ต้องขังรายใดเข้าเรือนจำในเดือน ก.ย.จะทำให้ต้องไปได้รับการปรับชั้นนักโทษในเดือน ธ.ค.” แหล่งข่าวชี้แจง
ถามว่ากรณีนายทักษิณจะได้รับการลดโทษลงอีกในวันสำคัญต่างๆ หลังจากนี้หรือไม่ หรือต้องรับโทษจำคุก 1 ปีไม่มีการลดหย่อนตามที่มีพระราชอำนาจเด็ดขาด แหล่งข่าวระบุว่า เรื่องของการพระราชทานอภัยโทษตามวันสำคัญต่างๆ ทั้งวันพ่อหรือวันแม่เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ ไม่สามารถยืนยันชัดเจนได้ว่าในวันสำคัญต่างๆนั้น จะมีการพระราชทานอภัยโทษหรือพระราชทานอภัยลดโทษหรือไม่ เป็นสิ่งที่มิอาจก้าวล่วงได้
“อย่างไรก็ตามจะมีเรื่องเกณฑ์อายุของผู้ต้องขัง เช่น กรณีเป็นผู้ต้องขังสูงวัย พ่วงด้วยโรคอาการเจ็บป่วย จะมีในส่วนการได้รับการพิจารณาพักโทษ เรือนจำหรือทัณฑสถานโดยผู้บัญชาการเรือนจำจะดำเนินการตรวจดูเรื่องหลักเกณฑ์ว่า ผู้ต้องขังเด็ดขาดชั้นดีรายใดเข้าเกณฑ์พักโทษและรายงานไปยังอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณาวินิจฉัยการพักการลงโทษ พิจารณาให้ความเห็นชอบ และเสนอรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ ท้ายสุดแจ้งให้ผู้ต้องขังรับทราบที่ผ่านมามีบุคคลมีชื่อเสียงหลายรายได้รับการพักโทษและออกมาใช้ชีวิตอยู่ด้านนอก เพียงแต่ต้องปฏิบัติตามข้อตกลงอย่างเคร่งครัดในการรายงานตัวต่อกรมคุมประพฤติ เช่น กรณีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองนายกรัฐมนตรีไทย หรือกรณีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นต้น อีกทั้งบางรายอาจติดกำไลอีเอ็มสักระยะ แต่หากคณะกรรมการเห็นว่า มารายงานตัวปกติ ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จะอนุญาตปลดกำไลอีเอ็ม” แหล่งข่าวระดับสูงกล่าว
แหล่งข่าวระดับสูงอธิบายต่อว่า ถือเป็นเกณฑ์ปกติสำหรับนักโทษเด็ดขาดที่เข้าเกณฑ์การพักโทษ เช่น การเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดี ไม่เคยประพฤติผิดวินัย หรือขณะที่อยู่ในเรือนจำมีความประพฤติดี เรือนจำจะเสนอแจ้งไปยังผู้ต้องขังว่าเข้าเกณฑ์ดังกล่าว นอกจากนี้ระหว่างพักโทษผู้ต้องขังจะอยู่พื้นที่ใดก็ได้ ส่วนใหญ่มักมีเงื่อนไขห้ามก่อคดี ห้ามกระทำความผิดระหว่างคุมประพฤติ เช่น กรณีนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ช่วงนั้นมีเงื่อนไขห้ามพูดเรื่องการเมือง ทำให้ในกรณีนายทักษิณ คณะกรรมการอาจกำหนดเงื่อนไขเช่นกัน ส่วนเรื่องจำกัดรัศมีกิโลเมตรนั้นแล้วแต่รายบุคคล บางรายอาจถูกเงื่อนไขจำกัดแค่พื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ถ้าจะไปต่างจังหวัดต้องแจ้งขออนุญาต อย่างไรก็ตามการพักโทษเป็นความรับผิดชอบหน้างานกรมคุมประพฤติ เมื่อจบกระบวนการพักโทษค่อยดำเนินการรายงานต่อศาล แล้วเข้าสู่กระบวนการปล่อยตัวตามวันเวลา เพราะถือว่าคดีสิ้นสุดแล้ว
ถามถึงการรักษาตัวของนายทักษิณที่ รพ.ตำรวจ จะมีกรอบเวลาอย่างไร แหล่งข่าวระบุว่า การพักรักษาตัวของนายทักษิณจะสั้นหรือยาวอยู่ที่อาการความเจ็บป่วยหนักหรือเจ็บป่วยเบา ต้องได้รับการประเมินวินิจฉัยจากแพทย์ผู้รักษา หากแพทย์ประเมินว่าต้องอยู่รับการรักษาต่อเนื่องก็ต้องอยู่ แต่ถ้าประเมินว่าอาการทุเลาดีขึ้น พิจารณาส่งกลับเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ สามารถกลับเข้าไปรับการรักษาที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้
“เมื่อวันที่ 22 ส.ค.วันที่นายทักษิณเดินทางกลับประเทศไทยเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เจ้าตัวดำเนินการยื่นเอกสารขอทูลเกล้าฯถวายฎีกาเรียบร้อยแล้ว มีทั้งเอกสารคำพิพากษาศาลเกี่ยวกับรายคดี เอกสารรายงานคุณงามความดี ข้อมูลประวัติการรักษาอาการเจ็บป่วยและหลักฐานอื่นๆส่วนตัว แต่ภายหลังการยื่นอยู่ในกระบวนการตรวจสอบเอกสารของทางเรือนจำฯ กรมราชทัณฑ์ และกระทรวงยุติธรรมไปตามลำดับชั้น จึงเป็นห้วงเวลาตามที่สังคมได้เห็นกัน ก่อนปรากฏพระบรมราชวินิจฉัยอภัยลดโทษ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาดังกล่าว” แหล่งข่าวระดับสูง ยธ.เผย
ที่ จ.ระยอง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์กรณีพระราชทานอภัยลดโทษจำคุกให้กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า เป็นสิทธิของนายทักษิณในการขอพระราชทานอภัยโทษ อยากฝากรัฐบาลช่วยดูแลปัญหาระบบความยุติธรรม ในเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีเงื่อนไขคล้ายๆกัน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในประเทศไทย จึงขอฝากรัฐบาลไว้ด้วย เมื่อถามย้ำว่า เรื่องนี้จะเป็นอภิสิทธิ์มากกว่าคนอื่นหรือไม่ นายพิธาตอบสั้นๆว่า ก็เป็นสิทธิของนายทักษิณ
