เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย แสดงความมั่นใจถึงการโหวตนายกฯ ที่จะมาถึงว่ามีคะแนนเสียงสนับสนุนกว่า 300 เสียง คาดผ่านด่าน สว. จัดตั้งรัฐบาลใหม่แบบผสมข้ามขั้ว แต่ยังไม่ชี้ชัดว่านำพรรค 2 ลุง เข้าร่วมรัฐบาลด้วยหรือไม่ ส่วนนักวิชาการมองว่า สัญญาณสนับสนุนชัดเจนกว่าตอนพรรคก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล เชื่อว่าผ่านไปได้ แต่พรรคเพื่อไทย ต้องเจอวิกฤติศรัทธาจากประชาชนอย่างหนัก
การโหวตนายกฯ รอบที่ 3 โดยการนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีคะแนนเลือกตั้งมาเป็นอันดับ 2 หลังฉีก Mou กับ 8 พรรคร่วมที่เคยทำไว้ช่วงที่พรรคก้าวไกล เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ล่าสุด เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย มองว่าคะแนนเสียงสนับสนุนที่ตอนนี้คาดว่าจะมีประมาณ 300 เสียงต้นๆ ถือว่ามีเสถียรภาพ ขณะเดียวกันยังมีข่าวลือถึงเก้าอี้รัฐมนตรี ที่ตอนนี้พรรคร่วมเริ่มว่างตำแหน่งกันไว้แล้ว

รศ.ดร.ธนภัทร ปัจฉิมม์ คณบดีโรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า หลังมีการเลื่อนโหวตนายกฯ รอบที่ 3 ที่เป็นการนำของพรรคเพื่อไทย คาดว่าช่วงระยะเวลานี้แกนนำของพรรคเพื่อไทย ได้ใช้เวลาในการเดินเกมการเมือง เพื่อหาคะแนนเสียงมาช่วยโหวตให้กับ คุณเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย จากการประเมินคาดว่าการโหวตนายกฯ รอบนี้จะผ่านฉลุย
จากกระแสข่าวการแบ่งเก้าอี้รัฐมนตรีตามกระทรวงต่างๆ ของพรรคที่มาร่วมรัฐบาล ทำให้เชื่อได้ว่ามีการเจรจาค่อนข้างแน่นอน ว่าพรรคเพื่อไทย สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะปกติการจัดตั้งรัฐบาลแบบผสมหลายพรรค มักมีการเจรจาในลักษณะนี้มาก่อน ต่างจากตอนที่ก้าวไกล ขึ้นมาจัดตั้งรัฐบาล ที่หลายอย่างไปเสี่ยงเอาหน้างาน เลยทำให้มีความเสี่ยงทางการเมืองมาก

“คาดว่ากระทรวงเกรดเอ รัฐมนตรีจะเป็นของพรรคเพื่อไทย เช่น มหาดไทย พลังงาน ส่วนพรรคร่วมอื่นจะแบ่งสรรไปตามโควตา ดังนั้นการโหวตนายกฯ รอบนี้ มีการพูดคุยตกลงเรื่องเก้าอี้รัฐมนตรีมาก่อนหน้า เป็นเหมือนเครื่องการันตีว่า สส.ในพรรคร่วมต้องโหวตให้กับเพื่อไทย”
การโหวตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มีสัญญาณชัดเจนว่า 2 ลุง พร้อมเปิดทางให้ เพราะมีการเจรจาที่ลงตัวก่อนโหวตรอบนี้แล้ว แต่การยอมของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นในลักษณะถอยและวางเฉย ทำให้ สส.ในพรรคมีความเป็นอิสระในการโหวตรอบนี้ โดย บิ๊กป้อม อาจงดออกคะแนนเสียง เพราะการออกมาส่งสัญญาณของคุณ “ไผ่ ลิกค์” เป็นการแสดงท่าทีทางการเมืองชัดเจนว่าจะโหวตให้ แต่อย่าลืมว่าการเมืองไทยไม่มีอะไรได้มาฟรี
การเล่นเกมการเมืองของเพื่อไทย แม้ได้จัดตั้งรัฐบาล แต่เจอความเสี่ยงวิกฤติศรัทธา โดยคาดว่าความเสื่อมถอยนี้ แกนนำพรรคได้ประเมินแล้ว แต่ต้องยอมรับเพื่อให้ได้จัดตั้งรัฐบาล แล้วให้มีเวลาทำงานซัก 4 ปี เพื่อสร้างโอกาสในการทำโครงการเรียกศรัทธาจากประชาชนคืนมา ถือเป็นสิ่งที่ได้เปรียบกว่าการเป็นฝ่ายค้าน
ต้องยอมรับว่ารัฐธรรมนูญที่ใช้อยู่ค่อนข้างมีปัญหา แกนนำเพื่อไทยก็ยอมรับและอยากแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการนำพรรค 2 ลุง เข้ามาร่วมด้วย อาจทำให้เป็นอุปสรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้นักการเมืองมองไปถึงการจัดตั้งรัฐบาลก่อน
“น่าสนใจว่าการโหวตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย มี สว.หลายคนออกมาแสดงความคิดเห็นว่าจะโหวตให้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการไฟเขียวของสองลุง ที่มีการเจรจามาก่อนหน้านี้แล้ว”

อีกตัวแปรสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้คือ การกลับมาประเทศไทยของคุณทักษิณ ชินวัตร ที่ก่อนหน้านี้มีประกาศว่าจะกลับมาต้นเดือน ส.ค. ที่ผ่าน แต่เนื่องจากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่แล้วเสร็จ เลยเป็นอีกตัวแปรสำคัญในการกลับมายังประเทศไทย ซึ่งถ้ามีการดึงสมาชิกของพรรค 2 ลุง มาร่วมเป็นรัฐบาลด้วย จะช่วยลดแรงเสียดทาน ให้คุณทักษิณ กลับมาไทยได้ เพราะถ้าเพื่อไทย ยังร่วมกับก้าวไกล จัดตั้งรัฐบาล ทำให้เกิดอุปสรรคอย่างมากต่อการกลับมาของคุณทักษิณ