พรรคไทยภักดี ออกแถลงการณ์ 2 ข้อ เรียกร้อง กองทัพบกและอัยการสูงสุด เร่งรัดคดี ม.112 กับ “ทักษิณ” พร้อม ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะราย หวั่นระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท สร้างวาทกรรม “คุกมีไว้ขังคนจน”
วันที่
27 สิงหาคม 2566 ที่ทำการพรรคไทยภักดี จ.นนทบุรี พรรคไทยภักดี
ออกแถลงการณ์ 2 ข้อ
ขอให้กองทัพบกและอัยการสูงสุดในฐานะโจทก์เร่งรัดดำเนินคดีหมิ่นประมาทและคดีความผิด
ม.112 กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ
ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร
อันจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
โดยข้อ 1.จากคดีความที่เกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร ทั้งหมด 9 คดี ปรากฏเป็นคดีที่ ศาลยกฟ้องหรือ ป.ป.ช.ยกคำร้องแล้ว 4 คดี และมีคดีที่ศาลมีคำพิพากษาแล้ว 4 คดี รวมโทษจำคุกทั้งหมด 12 ปี แต่มีบางคดีที่โทษจำคุกหมดอายุความ รวมทั้งบางคดีถือว่าจำคุกซ้อนกันและต่อเนื่อง จึงเหลือจำคุก 8 ปี
ขณะนี้ยังมีคดีที่ยังคงค้างอยู่ ในศาลอีก 1 คดี นั่นคือ คดีที่กองทัพบก ยื่นฟ้องนายทักษิณ หมิ่นประมาท กรณีเมื่อวันที่ 19-20 พ.ค. 2558 ซึ่งได้มีการเผยแพร่คำสัมภาษณ์ของนายทักษิณ จากประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองและการยึดอำนาจการปกครองของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกระทบถึง กองทัพบก ซึ่ง คดีนี้กองทัพบก เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ ที่ศาลอาญา คดีดำเลขที่ 1824/2558 ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค. ฐานความผิดคดีหมิ่นประมาท กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112, 326 และ 328
โดยคดีความผิดตามมาตรา 326 และ 328 นั้นศาลได้รับฟ้องแล้วในวันที่ 18 ส.ค. 2558 และ ศาลอาญาออกหมายจับนายทักษิณ เนื่องจากไม่มาศาลเมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2558 และจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราว หากได้ตัวมาดำเนินคดีแล้วจะขอรื้อคดีขึ้นมาใหม่ และยังมีคดีที่เป็นความผิดร้ายแรง เพราะนายทักษิณ ได้ถูกออกหมายจับ โดยตำรวจปอท. หมิ่นประมาท ดูหมิ่นและแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท เลขที่ 114/59 หมายจับ มีอายุความ 15 ปี วันที่ 21 พฤษภาคม 2558 - 21 พฤษภาคม 2573และมีข่าวว่า อัยการสูงสุดมีความเห็นควรสั่งฟ้องนายทักษิณ ข้อหากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งนายทักษิณ ได้มอบหมายให้ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ยื่นของความเป็นธรรมต่ออัยการสูงสุด โดยขอให้อัยการสูงสุด มีคำสั่งทบทวนความเห็นดังกล่าว เเละให้มีการสอบคำให้การพยานเพิ่มเติมอีก 4 ปาก ขณะนี้รออัยการสูงสุดสั่งการลงมา ซึ่งอัยการสูงสุดจะสั่งให้ผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับสำนวนคดีดังกล่าวเป็นผู้พิจารณา ก่อนส่งความเห็นมาให้ อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งการต่อไป
ดังนั้นเมื่อนายทักษิณได้เดินทางกลับมายังประเทศไทย และได้ถูกสั่งจำคุกไปแล้วจาก 3 คดี รวมโทษจำคุก 8 ปี จึงขอเรียนถามไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ยังคงค้างอยู่ว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร
กองทัพบก ที่เป็นโจทก์ฟ้องหมิ่นประมาทนายทักษิณจะเร่งรัดรื้อคดีที่ถูกจำหน่ายอยู่ขึ้นมาพิจารณาโดยเร็วหรือไม่ เมื่อจำเลยคือนายทักษิณได้กลับมาปรากฏตัวแล้ว
อัยการสูงสุดจะพิจารณาสั่งฟ้องนายทักษิณในคดี 112 โดยเร็วหรือไม่ หลังจากนายทักษิณได้ส่งหนังสือร้องขอความเป็นธรรมและเรื่องยังค้างคาอยู่ที่อัยการสูงสุดตั้งแต่ปี 2558
คดีนี้เป็นคดีใหญ่ คดีสำคัญ เกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของชาติ เป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน จึงขอให้กองทัพบกและอัยการสูงสุดพิจารณาดำเนินการให้ชัดเจนโดยเร็ว

2.ขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร อันจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องจากนช.ทักษิณ ชินวัตร ต้องคำพิพากษาให้จำคุกในคดีทุจริตคอร์รัปชันปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในขณะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศมากถึง 4 คดี
เป็นการกระทำความผิดหลายกรรมหลายวาระ เป็นการทำลายหลักธรรมาภิบาลของประเทศอย่างย่อยยับ สร้างความเสียหายร้ายแรงต่อประเทศ ซ้ำร้ายยังมีพฤติกรรมหลบหนีการลงโทษไปต่างประเทศ ไม่เคารพยอมรับคำพิพากษาของศาล พร้อมทั้งกล่าวให้ร้ายกระบวนการยุติธรรมของประเทศตลอดมา
การขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากจะเป็นการระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาทต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังจะเป็นการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมอย่างย่อยยับ เป็นแบบอย่างที่เลวร้ายต่อผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของประเทศ ที่สำคัญจะเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำไม่เสมอภาคเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประชาชน ทำให้วาทกรรมที่ว่า “คุกมีไว้ขังคนจน” ปรากฏเป็นจริงขึ้นมา
ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมา พรรคไทยภักดีจึงขอคัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษเป็นการพิเศษเฉพาะรายของนช.ทักษิณ ชินวัตร อย่างถึงที่สุด
ด้วยความนับถือ
พรรคไทยภักดี
27 สิงหาคม 2566
