เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 ม.ค.2566 ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา
ในฐานะรองประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม
พิจารณาร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.)
วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อจากวันที่ 10 ม.ค. เป็นวันที่ 2
เพื่อลงมติในมาตรา 7
โดยนายพรเพชร ได้กดออดเรียกให้สมาชิกเข้าห้องประชุม แต่ยังไม่สามารถเปิดประชุมได้ เพราะไม่ครบองค์ประชุมคือ 342 เสียง กระทั่งเวลา 10.05 น. มีสมาชิกแสดงตน 345 คน ถือว่าครบองค์ประชุม จึงเปิดประชุมได้ แต่ไม่สามารถโหวตลงมติได้ นายพรเพชร จึงกดออดอีกครั้งเพื่อลงมติ และขอให้สมาชิกที่กำลังประชุมกมธ.คณะต่างๆ เข้ามาช่วยโหวตมาตรา 7
ต่อมาเวลา 10.25 น. นายพรเพชร แจ้งว่า มีสมาชิกกดแสดงตนเพียง 310 คน ทั้งนี้ ระหว่างรอให้สมาชิกเข้าห้องประชุมเพื่อแสดงตนให้ครบองค์ประชุม ปรากฎว่ามีสมาชิกคนหนึ่งบ่นเสียงลอดไมโครโฟนออกมาว่า “เงินเดือนก็รับ แต่ประชุมไม่มา”
จากนั้นนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้สภาล่มเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ความจริงมีสมาชิกรัฐสภาในห้องประชุม กมธ.ไม่มาก ยืนยันว่าเราไม่ได้ขี้เกียจ แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้มีเนื้อหาที่ทำให้ผู้แทนฯ ส่วนหนึ่งไม่สบายใจ เราจึงบอกให้ถอนกฎหมายนี้ออกไปก่อน หากยังพิจารณาต่อไป จะเหนื่อยไปเรื่อยๆ
ขณะที่นายสมชวย แสวงการ ส.ว. ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ร่างพ.ร.บ.นี้มีสำคัญ เพราะรอการเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่ปี 2542 จึงอยากวิงวอนสมาชิกรัฐสภาให้ช่วยกัน หากเห็นด้วยหรือเห็นต่าง เราก็โหวตกันได้ ส่วนภาพประชุมล่มเมื่อวันที่ 10 ม.ค.นั้น มีส.ว.เข้าประชุมมากถึง 164 คน เพราะต้องการให้ร่างกฎหมายนี้เดินหน้าต่อไปได้ แต่พบว่ามีสมาชิกอยู่ในห้องประชุมบางส่วนไม่ยอมกดแสดงตน ซึ่งเป็นภาพที่ไม่งดงาม
กระทั่งเวลา 10.35 น. มีสมาชิกกดแสดงตน 347 คน ถือว่าครบองค์ประชุมเพื่อโหวตลงมติ และเข้าสู่การพิจารณาต่อในมาตรา 8
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ส.ส.เข้าประชุมสภาน้อย เนื่องจากในช่วงเช้า พรรคพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จัดกิจกรรมเปิดตัว ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าพรรคตลอดทั้งวัน รวมทั้งช่วงบ่ายพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ก็มีกิจกรรมเช่นกัน
{Fullwidth}
