ภูมิใจไทยคึก รับสมัครสมาชิกพรรควันแรก อดีต ส.ส.พลังประชารัฐ มั่นใจคนกรุงเลือกคนไม่ได้เลือกพรรค ด้าน “ปารีณา” ควง “สีหเดช” พี่ชาย ซบอก “อนุทิน” เชื่อพูดแล้วทำ ส่วนตัวยังรัก “ลุงป้อม” ที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (16 ธ.ค. 2565) มีการจัดประชุมใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย พร้อมเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่ของพรรค โดยเฉพาะ ส.ส. ที่ลาออกทั้ง 31 คน ซึ่งเตรียมจะมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก โดยพรรคได้นำต้นกัญชามาวางโชว์หน้างานด้วย
ขณะที่ อดีต 3 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย นายกษิดิ์เดช ชุติมันต์, นายจักรพันธ์ พรนิมิตร และนางสาวพัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ เข้ามารายงานตัวพร้อมสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย จากนั้น นายจักรพันธ์ กล่าวยืนยันว่าเหตุผลที่ตัดสินใจย้ายมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย เพราะ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ จะมาทำงานให้กับพรรค รวมถึงเหตุผลหลักที่ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาเก้าอี้ในกรุงเทพมหานคร ได้ในนามของพรรคภูมิใจไทย เนื่องจากพรรคส่งรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าพรรค คือ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เพราะจะทำให้ประชาชนมั่นใจ
พร้อมเชื่อด้วยว่าคนกรุงเทพฯ ยังเลือกผู้สมัครเพราะผลงาน ไม่ใช่เพราะพรรคหรือตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง อีกทั้ง ไม่เกี่ยวว่าที่ผ่านมาพรรคพลังประชารัฐได้ ส.ส.กทม. เพราะหากชื่อของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีพลังจริง คงกวาดเก้าอี้ ส.ส.ในกรุงเทพฯ ได้หมดแล้ว ทั้งนี้ พวกตนยังรักและเคารพ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้าไปกราบลาและบอกถึงเหตุผลที่จำเป็นต้องออกจากพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งพลเอกประวิตร เข้าใจ ส่วน ส.ส.คนอื่นของพลังประชารัฐ ที่ไม่มาสมัครวันนี้ก็จะทยอยมาสมัครวันอื่นๆ
ทางด้าน นางสาวปารีณา อดีต ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต ได้ควงแขนพี่ชาย นายสีหเดช ไกรคุปต์ มาสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ยืนยันว่าเป็นความสมัครใจของพี่ชายที่อยากจะมาอยู่กับพรรคภูมิใจไทย รวมถึงครอบครัวก็เปิดกว้างให้อิสระ ก่อนจะย้ำว่า “ส่วนตัวยังรักและเคารพลุงป้อมมากที่สุดในสามโลก ไม่ได้น้อยใจอะไรลุงป้อม ที่ผ่านมาทุกครั้งที่อยากจะเข้าพบ ลุงป้อมก็ให้พบตลอด” แต่เมื่อนายสีหเดช มาอยู่กับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ก็จะลงสมัครในเขตเดิมของตนเอง คือ เขต 3 และมั่นใจว่าตระกูลไกรคุปต์ จะยังได้รับความไว้วางใจจากประชาชนชาวราชบุรีอยู่ส่วนนายสีหเดช บอกว่า ที่เลือกมาพรรคภูมิใจไทย เพราะเป็นพรรคที่พูดแล้วทำ ที่ผ่านมาก็เคยติดตามลงไปช่วยงานน้องสาวทำงานในพื้นที่อยู่บ้าง ไม่กลัวชาวบ้านจะมีภาพจำว่าเป็นคนของพลังประชารัฐ.
>{Fullwidth}
