บิ๊กตู่” แจง “เสี่ยตุ๋ย” โผล่ทำเนียบฯเรื่องงาน อย่าโยงการเมืองปมเข้ารวมไทยสร้างชาติ ย้ำรู้ตัวเองดีไม่ใช่คนดีที่สุดในโลก ใครจะชอบหรือเกลียดก็ช่าง จับตานำร่องแต่งตั้ง “ไตรรงค์” นั่ง กุนซือ “พีระพันธุ์” เปิดประตูอ้าซ่ารอรับ “ประยุทธ์-ส.ส.พปชร.” เข้าพรรค ปชป. ระส่ำเลือดไหลไม่หยุด ส.ส.ชุดใหญ่จ่อไหลซบพรรคนั่งร้าน “ประยุทธ์” “พิมพ์ภัทรา” แจ้ง “เสี่ยต่อ” ไม่ไปร่วมเปิดตัว 9 ส.ส.เมืองคอน เพราะจะย้ายเข้า รทสช. จับตา “แม่เลี้ยงติ๊ก-รังสิมา-สมบูรณ์-วชิราภรณ์- สินธพ” จ่อทยอยไขก๊อกสมทบ ด้าน “ซ้อเจน” เลิกจ่ายเงินอุดหนุนพรรค พลิกขั้วไปเป็น หน.ทีมผู้สมัคร ส.ส.เมืองกาญจน์ พรรคเพื่อไทย “เสรีพิศุทธ์” หยัน 2 ป.แตกหักแยกกันเดิน ฟันธงไปไม่รอดทั้งคู่ “ระวี” มอง 2 ลุงตกลงกันไม่ได้ 3 ป.สูญพันธุ์ “ทักษิณ” ชี้สองพี่น้องซดเกาเหลาจนแยกวง ปูดบางพรรคทุ่มซื้อตัว ส.ส.หัวละ 80 ล้าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ยังไม่ยืนยันกระแสข่าวจะย้ายไปร่วมงานการเมืองกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ระบุนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ หัวหน้าพรรค รทสช. ที่มาพบที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 8 พ.ย. เป็นเพียงมาเรื่องงาน ขณะที่นายพีระพันธุ์ระบุพร้อมต้อนรับนายกฯและ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และทุกพรรคมาร่วมงาน

“บิ๊กตู่” รู้ตัวเองไม่ใช่คนดีที่สุด
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 พ.ย.ที่ห้องประชุม 421 ชั้น 2 อาคารอเนกประสงค์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดการศึกษา หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 65 พร้อมบรรยายหัวข้อ “บทบาทของภาครัฐ เอกชนและการเมือง ในการรักษาความมั่นคงแห่งชาติ” ตอนหนึ่งว่า นายกฯไม่ใช่คนที่ดีที่สุดในโลก แต่เป็นคนช่างคิดไปเรื่อย อะไรทำได้ก็ทำ ทำไม่ได้ก็ไม่ทำ ปัญหาสำคัญคือความรักความสามัคคีของทุกคนในชาติ “อย่าเอาผมไปโยง จะชอบผมหรือไม่ชอบผม เกลียดหรือไม่เกลียดก็ช่างคุณเถอะ แต่ผมรู้ตัวว่าผมเป็นคนอย่างไรอยู่ ขอบคุณคนที่รักนะ เราต้องให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เรามีกฎหมายของเราที่จำเป็นต้องคุ้มครอง การใช้อำนาจรัฐทุกอย่างต้องมีการตรวจสอบ ผมยอมรับความเห็นทางการเมืองโดยสุจริต แต่ถ้าพูดไม่มีข้อมูลจำเป็นต้องชี้แจงบางทีมันก็ไม่ใช่เลย แต่ไม่อยากไปทะเลาะกับใครทั้งสิ้น”
“ตุ๋ย” มาเรื่องงานอย่าโยงการเมือง
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงการเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา ในวันที่ 10-13 พ.ย.จะฝาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อะไรเป็นพิเศษหรือไม่ว่า เป็นความรับผิดชอบตามหน้าที่อยู่แล้ว ท่านรู้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เมื่อถามถึงกระแสข่าวจะไปร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “เป็นเรื่องกระแสข่าวนะจ๊ะ จริงๆแล้วที่ผมเดินมากับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯและหัวหน้าพรรค รมทสช. เมื่อวันที่ 8 พ.ย.นายพีระพันธุ์มาเรื่องงาน ในฐานะที่ปรึกษานายกฯ มาแถลงข่าว อย่ามองเป็นเรื่องการเมืองกันเลยนะ เมื่อถามว่าพรรค รทสช.จะเทียบเชิญร่วม จะให้คำตอบได้เมื่อไหร่ พล.อ.ประยุทธ์ไม่ตอบคำถามนี้เดินไปขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที
รทสช.เปิดประตูรอ “ตู่–ส.ส.พปชร.”
ที่ห้องประชุมสปอร์ตคอมเพล็กซ์ ชั้น 4 ม.กรุงเทพธนบุรี นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม จะเข้าร่วมกับพรรครทสช.ว่า หลังประชุมเอเปกเชื่อว่าคงมีความชัดเจนเหมือนที่นายกฯพูด ไม่เคยปฏิเสธใครที่คิดว่าแนวทางของพรรคตรงกัน หากนายกฯสนใจจริง ไม่เห็นว่ามีอะไรจะเป็นข้อขัดข้อง ต้องการรวบรวมคนดีๆมาทำงานให้กับบ้านเมืองอยู่แล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรค เสนอชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯได้เลยหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า แล้วแต่ท่าน ยังไม่ได้คิด ยังไม่ถึงเวลา ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย การให้การสนับสนุนพรรคการเมือง ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกพรรคเสมอไป หากมีสมาชิกพรรค พปชร.มาช่วยเติมก็ยินดี อย่าว่าแต่พรรค พปชร.เลย ได้ทุกพรรค พรรคการเมืองมีกันอยู่แค่นี้ วนกันไปวนกันมา เมื่อถามว่า มั่นใจจะได้ 25 เสียง เพื่อเสนอแคนดิเดตนายกฯหรือไม่ นายพีระพันธุ์ตอบว่า พรรคเตรียมพร้อมเลือกตั้ง มั่นใจจะได้เกิน 25 เสียงแน่นอน
นายกฯนำร่องตั้ง “ไตรรงค์” นั่งกุนซือ
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหมลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 289/2565 เรื่องแต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกฯ มีเนื้อหาสรุปว่าเพื่อให้การบริหารราชการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ นายกฯแต่งตั้งให้นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่มีกระแสข่าวว่าจะร่วมงานกับพรรค รทสช. เป็นที่ปรึกษาของนายกฯเพื่อให้คำปรึกษา พิจารณาเสนอความเห็นข้อเสนอแนะที่นายกฯมอบหมาย โดยให้ส่วนราชการสนับสนุนการดำเนินงานของนายไตรรค์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.
“อนุทิน” พา “ศักดิ์สยาม” ขอพรนายกฯ
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ในฐานะเลขาธิการพรรค ภท. เข้าพบนายกฯขอพรครบรอบวันคล้ายเกิด 60 ปี นายศักดิ์สยาม โดยนายอนุทินเปิดเผยว่า วันที่ 9 พ.ย.เป็นวันเกิด รมว.คมนาคม ได้ขอพบนายกฯขอพร นายกฯขอให้ช่วยกันทำงานให้บ้านเมือง ให้พรตนและนายศักดิ์สยามให้สุขภาพแข็งแรง นายกฯยังบอกว่าใกล้เลือกตั้งแล้ว พรรค ภท.เตรียมพร้อมหรือยัง ภท.เตรียมมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่รัฐบาลเข้าสู่ปีที่ 4 แต่อนาคตการเมืองของนายกฯ ไม่กล้าถามท่านไม่ได้พูดเรื่องของท่าน บอกให้ทำงานกันไป ส่วนปัญหาที่เป็นข่าวยืนยันไปว่าเป็นความเห็นแตกต่าง สุดท้ายเป็นเรื่องของสภาฯ ไม่มีอะไรที่ทำให้รัฐบาลเกิดอุปสรรค และยังทำงานต่างๆต่อไปเหมือนเดิม สิ่งที่นายกฯห่วงใยคือการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาลต้องไม่มีปัญหาและเราต้องไม่ทำให้มีปัญหา ขอยืนยัน 100% และขอให้มั่นใจว่า ภท.ไม่นำความขัดแย้งในสภาฯมาเป็นปัญหาการทำงานของพรรคร่วมรัฐบาล ผลโหวตออกมาอย่างไรยืนยันว่าจะไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้น

ยุเข้าพรรค–เชื่อ 2 ป.ไม่แยกขาด
นายอนุทินกล่าวอีกว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะย้ายไปเป็นหัวหน้าพรรค รทสช.คิดว่าดี อย่างตนตอนยังไม่ได้เป็น ส.ส.เคยเป็นรัฐมนตรีมาก่อน พอมาเป็น ส.ส.จะเป็นฐานการเมืองที่แน่นหนา นายกฯ อยู่มาถึง 7-8 ปีแล้วถ้าเข้าไปในระบบพรรคการเมืองไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าหรือผู้บริหารพรรคยิ่งทำให้มีฐานการเมืองที่แน่นหนา มีความสมบูรณ์ การเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์ ไม่ใช่เปลี่ยนถ่ายจากสมัย คสช. ที่มีบทเฉพาะกาลของรัฐธรรมนูญ เลือกตั้งครั้งหน้าเหลือแค่ ส.ว.อีก 2 ปีก็จบ พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ถ้าเป็นแบบแยกกันเดิน ร่วมกันตีก็ไม่เป็นไร แต่คงไม่ถึงขั้นแยกกันเด็ดขาด คบกันมา 40-50 ปีความผูกพันมันสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด
“เสรีพิศุทธ์” ชี้ 2 ป.แตกหักไม่รอดทั้งคู่
ที่รัฐสภา
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
(สร.) กล่าวว่า นายกฯจะย้ายไปพรรค รทสช.ได้ยินมานานแล้ว พล.อ.ประยุทธ์กับ
พล.อ.ประวิตรและ ส.ส.ห่างกันไปเรื่อยๆ พอใกล้เลือกตั้ง พล.อ.ประยุทธ์เริ่ม
ไม่แน่ใจว่าพรรค
พปชร.จะเสนอชื่อเป็นนายกฯ หรือไม่ ต้องหาทางสำรอง หากคุยกับ
พล.อ.ประวิตรได้คงจะยอมอยู่ในพรรค พปชร.ต่อไป
แต่ถ้าคุยไม่ได้ต้องไปอยู่พรรค รทสช.คงแน่นอนแล้วว่าต้องแตกหักและแยกทางกัน
ทั้ง 2 พรรค คงไปไม่ได้ทั้งคู่ เมื่อแยกกันเดินไม่มีอำนาจทั้งคู่ แต่
พปชร.คงไม่ถึงขนาดสูญพันธุ์ ส.ว.จะไม่เหมือนเดิม เลือกนายกฯ ครั้งที่แล้ว
ส.ว.ไม่ขาดสักคนที่เลือก พล.อ.ประยุทธ์
แต่ครั้งนี้เชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะมี ส.ส.เพิ่มมากขึ้น
ตอนนี้มีข่าวว่าจะยุบพรรคเพื่อไทย(พท.) และพรรคก้าวไกล (ก.ก.) เพื่อให้
ส.ส.วิ่งเข้าไปอยู่ในพรรคตัวเองมากขึ้น เชื่อว่า 2
พรรคนี้ไม่ได้เป็นที่หนึ่งให้คนอื่นเขาจัด ถามว่า ส.ว. 250
คนจะเลือกหมดหรือ ต่อให้เลือกหมดก็บริหารต่อไม่ได้ เพราะ
ส.ส.ฝ่ายประชาธิปไตยเกินครึ่ง ถึงอย่างไรฝ่ายประชาธิปไตยก็ได้
ส.ส.เกินครึ่ง ต่อให้ ส.ว.เลือก พล.อ.ประยุทธ์หรือ
พล.อ.ประวิตรเข้าไปก็บริหารไม่ได้อยู่ในสภาฯเสียงไม่ถึงครึ่งทำอะไรไม่ได้
แป๊บเดียวเดี๋ยวก็ล้ม
ถ้า “2 ลุง” ตกลงกันไม่ได้ 3 ป.สูญพันธุ์
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กล่าวว่า ถ้าทั้ง 3 ป.ยังผนึกกำลังกันแน่น โอกาสที่พรรค พปชร.จะไปจับมือตั้งรัฐบาลกับพรรค พท. คงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าแตกกัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ หาก พล.อ.ประยุทธ์เข้าร่วมพรรค พปชร.อาจเสนอ พล.อ.ประยุทธ์เป็นแคนดิเดตนายกฯ 2 ปีแรก พล.อ.ประวิตรเป็น 2 ปีหลัง ทางนี้อาจรวมกันแล้วชนะพรรค พท.ได้ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ไปอยู่พรรค รทสช. 3 ป.จะสูญพันธุ์ พรรค รทสช.อาจได้ ส.ส. 50 คน เพราะ ส.ส.พปชร.จะไหลมาอยู่พรรคนี้ทำให้พรรค พปชร.และ รทสช.ไม่ประสบความสำเร็จ แม้สุดท้ายจะกลับมาจับมือกันได้ แต่แพ้พรรค พท.แน่นอน เชื่อว่าจะยุบสภาหลังเดือน ก.พ.66 รัฐบาลยังต้องรอเวลาแก้สถานการณ์ รอให้ ส.ส.ย้ายพรรคสะดวก ต้องยุบสภาให้ย้ายพรรคได้ใน 30 วัน กรณีพล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตรตกลงกันไม่ได้ จน พล.อ.ประยุทธ์ต้องไปอยู่อีกพรรคหนึ่งต้องให้เวลาส.ส.ย้ายพรรคก่อน
จุดพลุนิรโทษกรรมทุกสี
นพ.ระวีกล่าวอีกว่า ได้หารือหลายฝ่ายหาทางสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ยุติความแตกแยกทางความคิด พร้อมยกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน นิรโทษกรรมแก่ประชาชนทุกกลุ่มที่กระทำผิดจากการชุมนุมทางการเมืองและการแสดงออกทางการเมือง ตั้งแต่วันที่ 19 ก.ย.49-30 พ.ย.65 ครอบคลุมตั้งแต่การใช้วาจา การโฆษณาต่อต้านรัฐบาล การต่อสู้ขัดขืนเจ้าหน้าที่รัฐในการชุมนุม การประท้วงที่กระทบต่อสิทธิของบุคคลอื่นที่เป็นเหตุสืบเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง จะไม่ถือเป็นความผิดทางอาญาและแพ่ง ให้พ้นจากการกระทำผิดและความรับผิดโดยสิ้นเชิงยกเว้นความผิด 3 กรณี ได้แก่ 1.การทุจริตคอร์รัปชัน 2.ความผิดทางอาญาที่รุนแรง เช่น การยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร หรือบุคคลอื่น 3.ความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

“ชวน” แจ้ง 2 ส.ส.พปชร.–ก.ก.ไขก๊อก
เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม หลังให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน นายชวนแจ้งต่อที่ประชุมว่าสภาฯรับทราบการสิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส. 2 คนคือ นายวันชัย ปริญญาศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร. ที่ยื่นหนังสือลาออกจาก ส.ส.เมื่อวันที่ 3 ต.ค.65 และนายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส. กทม. พรรคก้าวไกล ยื่นหนังสือลาออกวันที่ 4 พ.ย.65 ทำให้สิ้นสุดสมาชิกภาพ ส.ส.ในสภาปัจจุบันเท่าที่มีอยู่และปฏิบัติหน้าที่ได้คือ 475 คน องค์ประชุม 238 คน สัปดาห์หน้าจะงดประชุมสภา สัปดาห์ถัดไปจะขออนุญาตประชุมสภาวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.65 เพิ่มเติม ไม่อยากให้มีวาระรายงานการพิจารณาเรื่องต่างๆ ของ กมธ.ตกค้าง เพราะความไม่แน่นอนของสภาฯว่ารัฐบาลจะยุบสภาหรือไม่ เราไม่มีโอกาสทราบ จึงอยากให้เราไม่ประมาท หากปล่อยให้เรื่องที่ กมธ.พิจารณาทิ้งไว้ จะทำให้สมาชิกไม่มีผลงานกลับบ้าน จึงต้องเหนื่อยกันหน่อย ขอความร่วมมือส.ส.เข้าประชุมพิเศษในวันที่ 25 พ.ย. จากนั้นจะประชุมเพิ่มวันไหน จะหารือกับผู้นำฝ่ายค้าน วิปฝ่ายค้านและวิปฝ่ายรัฐบาลอีกครั้ง
ปชป.เลือดไหล ส.ส.ชุดใหญ่ไป รทสช.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า พรรค ปชป.ยังคงมี ส.ส.ทยอยลาออกเพื่อไปเข้าสังกัดพรรคใหม่อย่างต่อเนื่องหลายคน โดยล่าสุดพรรคจะเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ในวันที่ 12 พ.ย. 9 เขต โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรค จะไปทำพิธีเปิดด้วยตัวเอง แต่ปรากฏว่า น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช แจ้งความประสงค์ต่อนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรฯในฐานะเลขาธิการพรรคว่าจะไม่ไปร่วมงานดังกล่าว เนื่องจากจะย้ายพรรคไปสังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จนกลายเป็นประเด็นพูดคุยของ ส.ส.ในพรรค
“แม่เลี้ยงติ๊ก–รังสิมา–สมบูรณ์” จ่อชิ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ภายในพรรคยังพูดถึงชื่อ ส.ส.อีกหลายคนที่จะย้ายไปสังกัดพรรค รทสช. อาทิ นางศิริวรรณ ปราศจากศัตรู หรือแม่เลี้ยงติ๊ก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่สนิทสนมส่วนตัวกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช. น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงครามและอดีตแนวร่วมกปปส.และนายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯและอดีต ส.ส.ตรัง ที่แจ้งความประสงค์ต่อพรรคว่าจะลงเขตเลือกตั้งที่ 4 จ.ตรัง แต่ผู้บริหารพรรคให้ทำโพลสำรวจความนิยมเขต 4 จ.ตรัง ผลโพลออกมาแพ้ท่ามกลางข้อสงสัยความโปร่งใสกระบวนการทำโพล ล่าสุดพรรค รทสช.ได้ทาบทามไว้แล้ว หากพรรค ปชป.ไม่ส่งลงเลือกตั้ง ส.ส.เขตจะย้ายไปร่วมงานกับพรรค รทสช. รวมถึง พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.นครปฐม สมาชิกกลุ่มเลือดใหม่ อีกรายหนึ่งที่ส่อจะย้ายไปอยู่กับพรรค รทสช.ด้วย เนื่องจากมีบิ๊กทหารเป็นคนเชื่อมประสานให้
ลูก “ชุมพล กาญจนะ” รอย้ายค่าย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ยังมี น.ส.วชิราภรณ์ กาญจนะ หรือ “น้องจ๋า” ส.ส.สุราษฎร์ธานี ลูกสาวนายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.และแกนนำพรรค ปชป. ที่ก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวว่าครั้งหน้าลงสมัคร ส.ส.ในนาม ปชป.ไปแล้วก็ตาม ท่ามกลางกระแสข่าวจะย้ายไปพรรค ภท. แต่สุดท้ายดีลไม่ลงตัว ล่าสุดมีอดีตกรรมการที่ปรึกษาพรรค ปชป.ที่เพิ่งลาออกจากพรรคเป็นผู้ไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้งในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างนายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว นายก อบจ.สุราษฎร์ธานีกับนางโสภา กาญจนะ มารดาของ น.ส.วชิราภรณ์ ให้จนลงตัวก็รอย้ายไปซบพรรค รทสช.อีกคน
“ซ้อเจน” งดจ่ายเงินพรรคพลิกซบ พท.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ หรือ “ซ้อเจน” ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะย้ายไปพรรคเพื่อไทย ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญชัดเจนโดยนางศรีสมร แจ้งต่อสภาฯว่า ไม่ประสงค์จะให้หักเงินเดือน ส.ส.บัญชีรายชื่อ 3 หมื่นบาทไปเข้าพรรค ปชป.อีกต่อไป นับแต่วันที่ 1 พ.ย.65 เป็นต้นไป โดยหลักปฏิบัติของ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ปชป.จะให้ตัดเงินเดือน ส.ส.ไปสนับสนุนพรรคทุกคน เป็นที่แน่ชัดว่านางศรีสมรจะย้ายไปร่วมงานกับพรรค พท. พร้อมกับข้อเสนอได้เป็นหัวหน้าทีมผู้สมัคร ส.ส.กาญจนบุรีของพรรค พท.

“ชลน่าน” ชี้ “อุ๊งอิ๊ง” ท้องไม่มีปัญหา
นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรค เพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ตั้งครรภ์ลูกคนที่ 2 จะมี ผลกระทบต่อตัวแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท.หรือไม่ว่า ขณะนี้ น.ส.แพทองธาร ยังไม่ได้รับการประกาศให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ จะฟังเสียงประชาชนเป็นหลัก มิติเชิงสุขภาพและสาธารณบุคคลมีผลพิจารณาน้อยมาก ถ้าไม่เกี่ยวข้องกับสภาวะที่ไม่สามารถทำงานได้เลยไม่น่ามีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า วันที่ 10 พ.ย. เวลา 10.00 น.นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ (บิลลี่) อดีต ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล จะเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรค นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด ประธานคณะกรรมการประสานงานด้านการเมืองพื้นที่ กทม. คอยให้การต้อนรับสมาชิกใหม่
“โทนี่” ซัดเถ้าแก่สั่งทำแท้ง ก.ม.สุราฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ กล่าวผ่านเพจ แคร์ คิด เคลื่อนไทย ในหัวข้อ “ที่ดิน สุรา กัญชา มั่วเต็มคาราเบล : ทำนโยบายไม่เป็น หรือเห็นแก่เงินของใคร” ตอนหนึ่งว่า เรื่องกฎหมายสุราที่ไม่ผ่านสภา แถมออกกฎกระทรวงมาปาดหน้าอีกเพราะมีเถ้าแก่สั่งมา การผูกขาดสุราและเบียร์เป็นการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์เติบโต เรื่องสุราทำมาก่อนตั้งแต่สมัยไทยรักไทย สุราพื้นบ้านมีมานานแล้ว ไม่ใช่เหล้าเถื่อน แต่ที่วันนี้เป็นเหล้าเถื่อน เพราะกฎกติกาออกมาเยอะ ทำให้กลายเป็นของเถื่อน เพราะกว่าจะได้ใบอนุญาตรอจนแก่ตายกันพอดี ผับที่เมืองนอก เขาทำเบียร์กันเองหมด แค่ขอตรวจให้อนุญาตถูกต้อง ซึ่งเขาสามารถขออนุญาตออนไลน์ได้ทั้งหมด แต่เราดันแกล้งเซ่อ ออกกฎหมายเพื่อกันคนตัวเล็ก คนตัวใหญ่กินจนอ้วน ดังนั้นวันนี้ต้องทำให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้องเกิด ให้ชนชั้นกลางได้เกิดบ้าง เจ้าสัวอิ่มจนอ้วกแล้ว ให้คนชั้นกลางได้เติบโตบ้างเถอะ
ฟันธง “บิ๊กตู่” หน. “สุชาติ” เลขาฯ รทสช.
นายทักษิณกล่าวต่อว่า วันนี้ดูท่าที พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในเมื่อเกาเหลาสองชามไม่มีเส้น จึงต้องไปเปิดร้านคนละร้าน คนหนึ่งยึดร้านเก่าไว้ อีกคนเปิดสาขาใหม่ เห็นได้ชัดเจนว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปเป็นหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ หากเดาไม่ผิดนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน น่าจะไปเป็นเลขาฯพรรค ส่วน พล.อ.ประวิตร รักษาพรรคเดิมไว้ แต่จะบอกอย่างนึงไว้ ประชาชนเจ็บมานาน เที่ยวนี้ประชาชนกำลังจะสอน จะเอาตังค์แต่ไม่เลือก ตอนนี้บางพรรคซื้อตัว ส.ส.เข้าไปหัวละ 80 ล้านบาท เหมาะกับ ส.ส.ใกล้รีไทร์ทางการเมือง เมื่อได้ 80 ล้านขึ้นป้ายหาเสียง 5 ล้านที่เหลือเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้านไปเลี้ยงหลาน เพราะซื้อไปก็แพ้ เลือกตั้งครั้งต่อไปสนุกแน่ เพราะประชาชนกำหนดชะตาชีวิตของตนเอง

แนะ “บิ๊กตู่” อยู่ครบเทอมแล้วล้างมือ
นายทักษิณกล่าวอีกว่า ในฐานะคนผ่านการเมืองมาเยอะ วิเคราะห์ตามกติกาที่ระบุว่าจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯ ถ้าไม่ได้ 25 เสียง ชื่อนั้นตกกระป๋อง ดูแล้วพรรคที่จะได้ 25 เสียงขึ้นไปมีอยู่ 5 พรรค ถ้าตนเป็น พล.อ.ประยุทธ์มี 2 ทางเลือก จะเอาเท่หรือไม่เท่ ถ้าเอาเท่คืออยู่ครบเทอม เหลืออีก 2 ปี อย่าคิดอะไร พักผ่อนล้างมือ จบ ถ้าเป็นแบบนี้ คอยดูวันที่ 23 ธ.ค.จะมี ส.ส. รัฐมนตรี ลาออกเพื่อย้ายพรรคให้ทัน ไม่งั้นจะตกขบวน นอกจาก พล.อ.ประยุทธ์จะประกาศยุบสภา ส่วนแบบไม่เท่คือไม่ต้องเข้าพรรคไหน ไปตกลงกับพรรค ภท.ให้เสนอชื่อเป็นนายกฯคู่กับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข แบ่งกันคนละ 2 ปี เพราะถ้าไปร่วมกับพรรค รทสช. ไม่แน่ใจเพราะเป็นพรรคใหม่ ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนาของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ เงินมี ชื่อพรรคเก่า แต่ไม่ได้ 25 เสียง ส่วนพรรคประชาชาติอยู่มาแล้ว 1 สมัย ฐานเสียงภาคใต้ก็มี แต่ทำให้ได้ 25 เสียงยาก
เหน็บประเทศพังหรือถึงต้องสร้าง
นายทักษิณกล่าวอีกว่า การเมืองบ้านเราจากที่สังเกตดูจนต้องตั้งคำถามว่า วันนี้ชาติเราพังไปแล้วหรือ ถึงจะสร้างกันแหลกเลย ทั้งรวมไทยสร้างชาติ ไทยสร้างไทย สร้างอนาคตไทย สรุปแล้วประเทศเราไม่มีแล้วหรือ ถึงต้องสร้างกันใหม่ ส่วนตัวคิดว่ามีอยู่และสร้างกันมานานแล้ว ตั้งแต่บรรพบุรุษ แต่เสีย ดังนั้น ต้องซ่อม ไม่ใช่สร้าง เพราะทหารปฏิวัติมาแล้วถึง 2 ครั้ง ประเทศเจ๊ง ประเทศยังอยู่ แต่ต้องซ่อม

ทสท.ยินดีจับมือพรรคพันธมิตร
ที่พรรคไทยสร้างไทย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค พร้อม น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคและแกนนำร่วมปล่อยขบวนคาราวานปราบยาเสพติด ในแคมเปญ “ยุทธการปราบยาเสพติด คืนลูกหลานสู่อ้อมอกพ่อแม่” โดยคุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า ขอประกาศเจตนารมณ์ จริงจังกับการปราบยาเสพติดให้สิ้นซาก ได้แต่งตั้งคณะกรรมการด้านความมั่นคงแห่งชาติและป้องกันปัญหายาเสพติด มี พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ รองหัวหน้าพรรค เป็นประธานที่ปรึกษา แจ้งเบาะแสมาได้ที่ ID Line : @thaisangthai facebook fanpape พรรคไทยสร้างไทย และศูนย์ประสานงานว่าที่ผู้สมัครส.ส.ของพรรคทั่วประเทศ
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวว่า จุดยืนยึดหลักเป็นประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ไม่สนับสนุนเผด็จการ ยุติทุกความขัดแย้ง รับฟังความเห็นต่าง มุ่งสร้างเศรษฐกิจไทย ปลดล็อกการเมือง 2 ขั้ว สาเหตุให้ก่อรัฐประหารมาแล้วถึง 2 ครั้ง ขอ เป็นทางเลือกใหม่ทางรอดให้ประเทศ ส่วนพรรคใดอยากมาจับมือทำงานด้วยกัน เราไม่ปิดกั้นและยินดี อาจไม่จำเป็นต้องยุบรวมแต่เป็นพันธมิตรกันก็ได้ แต่ต้องเป็นประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ มุ่งสร้างอำนาจให้ประชาชน ต้องขจัดการทุจริตคอร์รัปชัน
30 พ.ย.ศาล รธน.ชี้ขาด ก.ม.เลือกตั้ง
เมื่อเวลา 13.40น. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ เผยเเพร่เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ว่า เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ศาลรัฐธรรมนูญประชุมปรึกษากรณีประธานรัฐสภาส่งความเห็นของ ส.ส. และ ส.ว.ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 148 วรรคหนึ่ง (1) ประกอบมาตรา 132 ว่าร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่ ...) พ.ศ. ... มาตรา 25 และมาตรา 26 มีข้อความ ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 93 และมาตรา 94 หรือไม่ และตราขึ้นโดยไม่ถูกต้องตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญหรือไม่ ทั้งนี้ ศาลรัฐธรรมนูญได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยแล้วเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 30 พ.ย. เวลา 09.30 น.
ส.ว.โยน ครม.ชี้ขาดประชามติโละ รธน.
ที่รัฐสภา นายคำนูณ สิทธิสมาน ส.ว.กล่าวถึงกรณีสภาฯเห็นชอบญัตติการเสนอให้ ครม.ทำประชามติสอบถามประชาชนเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับในวันเดียวกับวันเลือกตั้งว่า เห็นด้วย เพราะศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำวินิจฉัย การจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ต้องสอบถามความเห็นประชาชนก่อน แต่ต้องดู ครม.จะเห็นด้วยหรือไม่ ครม.ต้องปรึกษา กกต. อาจมีปัญหาทางปฏิบัติจะทำได้หรือไม่ เพราะเป็นกฎหมายคนละฉบับ ระยะเวลาเหลื่อมกัน การเลือกตั้งไม่ว่ายุบสภาหรือครบวาระ มีเวลาสูงสุด 60 วัน ขณะที่กรอบเวลาทำประชามติมี 90-120 วัน และการออกเสียงประชามติเรื่องการเมืองสำคัญวันเดียวกับการเลือกตั้ง อาจก่อผลดีและผลเสียต่อผู้ถูกรับเลือกตั้งแต่ละพรรค ยังไม่ชัดเจนส.ส.ร.จะเป็นรูปแบบใด ถามคำถามเดียวจะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ทางปฏิบัติยังห่างไกลใช้เวลาพอควร
{Fullwidth}