ข่าวการเมือง "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ขอความร่วมมือ ประหยัดนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

 


นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ย้ำขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมกันประหยัด เพื่อลดการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ ขณะที่ กพช. ไฟเขียว เดินหน้ามาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤติ ช่วง ต.ค.-ธ.ค.65

วันที่ 7 พ.ย. นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า วันนี้ ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ครั้งที่ 7/2565 (ครั้งที่ 162) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เข้าร่วมด้วย สรุปผลการประชุม ดังนี้

นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ขอความร่วมมือ ประหยัดนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

นายกรัฐมนตรี ย้ำให้กรรมการ กพช. ทุกคน ร่วมกันพิจารณาหารือประเด็นสำคัญ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาพลังงาน ที่เกิดขึ้นขณะนี้ โดยเฉพาะความจำเป็นที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนด้านพลังงานของประเทศให้สอดคล้องกับสถานการณ์โดยให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด ทั้งนี้ การดำเนินการทุกอย่างที่เสนอมาต้องเป็นไปด้วยความสุจริต เป็นธรรม ตรวจสอบได้ คุ้มค่ากับการใช้จ่ายงบประมาณและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนและประเทศชาติอย่างแท้จริง

นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำถึงการดำเนินมาตรการประหยัดพลังงาน ให้เป็นมาตรการระยะยาวที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ทุกหน่วยงานร่วมมือกันประหยัดพลังงานอย่างจริงจังและปฏิบัติให้เกิดผลเป็นรูปธรรมตามเป้าหมาย ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์รณรงค์สร้างความรู้ และความเข้าใจ กับประชาชนทุกภาคส่วนในสังคม ถึงความจำเป็นที่ต้องร่วมกันประหยัดพลังงาน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้มแข็งด้านพลังงานของประเทศให้เพียงพอสำหรับประชาชนและเศรษฐกิจด้านต่างๆ ขับเคลื่อนต่อไปได้ รวมทั้งเพื่อลดการนำเข้าพลังงานและก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศ ที่ขณะนี้ยังมีราคาแพง ซึ่งจะทำให้สามารถประหยัดการใช้จ่ายงบประมาณของประเทศในการนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศได้ด้วย ส่วนกรณีของการนำโรงไฟฟ้าพลังความร้อนแม่เมาะ เครื่องที่ 4 กลับมาผลิตไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต้นทุนการผลิตไฟฟ้า และรองรับสถานการณ์วิกฤติราคาพลังงานนั้น นายกรัฐมนตรี กำชับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบายลดโลกร้อนของรัฐบาล

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สาเหตุของอัตราการใช้พลังงานของประเทศเพิ่มขึ้นนั้น เนื่องจากภายหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย เศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัว สถานประกอบการ โรงงาน และธุรกิจต่างๆ สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ รวมทั้งประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมต่างๆ ได้แล้ว ตลอดจนการเกิดธุรกิจใหม่ๆ ที่ต้องใช้พลังงานมากเช่นกัน อาทิ กลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัล และธุรกิจออนไลน์ต่างๆ เป็นต้น

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวให้ความสำคัญเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาดและพลังงานสีเขียว ว่า เป็นแนวทางของการปรับเปลี่ยนพลิกโฉมการใช้พลังงานของไทยไปสู่อนาคตที่สอดคล้องกับการขับเคลื่อนนโยบาย BCG Model ไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) และนโยบายการลดโลกร้อนของรัฐบาล อีกทั้งยังจะเป็นปัจจัยสนับสนุนในการที่จะดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากเห็นศักยภาพด้านการขับเคลื่อนพลังงานสะอาดของไทยอย่างจริงจัง ซึ่งขณะนี้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญอย่างมากในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อนำไปสู่การลดโลกร้อนให้ได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ รวมไปถึงก่อให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจในประเทศ และทำให้สินค้าของไทยเข้าสู่ตลาดสากลภายใต้มาตรฐานและกติกาสากล อันจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและอุตสาหกรรมของประเทศไทยได้อีกด้วย

นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ขอความร่วมมือ ประหยัดนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

นายอนุชา กล่าวว่า ที่ประชุม กพช. มีมติเห็นชอบมาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤติราคาพลังงานในช่วงเดือนตุลาคม – ธันวาคม 2565 เช่น มาตรการตามแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ ปี 2565 การจัดหาพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติมจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำในประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงมาตรการขอความร่วมมือในการประหยัดพลังงานในภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม และเร่งรัดการอนุมัติ/อนุญาตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Cell) เป็นต้น ซึ่งการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวจะสามารถประมาณเทียบเท่าการลดการนำเข้า Spot LNG

ทั้งนี้ ที่ประชุม กพช. ได้มอบหมายให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบมาตรการบริหารจัดการพลังงานฯ แต่ละมาตรการ ได้แก่ สำนักงาน กกพ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (ชธ.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เร่งดำเนินการในมาตรการ โดยต้องดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ซึ่งที่ประชุม กพช. ได้มอบหมายให้ สำนักงาน กกพ. ติดตามสถานการณ์ราคาพลังงาน โดยเปรียบเทียบราคา Spot LNG นำเข้ากับราคาเชื้อเพลิงและต้นทุนในแต่ละมาตรการ เพื่อนำมาพิจารณาในการที่จะคงการใช้มาตรการที่มีความคุ้มค่าและเลิกใช้มาตรการที่ไม่มีความคุ้มค่า โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนเป็นสำคัญ ทั้งนี้ หากสถานการณ์ราคาพลังงานเปลี่ยนแปลงไปอันจะส่งผลให้ต้องมีการเปลี่ยนแปลงการใช้มาตรการต่างๆ แล้ว ให้สำนักงาน กกพ. รายงานต่อคณะอนุกรรมการบริหารจัดการรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงาน (คณะอนุกรรมการฯ) โดยเร็ว และที่ประชุมได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) โดยคณะอนุกรรมการฯ ติดตามการดำเนินงานตามมาตรการบริหารจัดการพลังงานในสถานการณ์วิกฤติราคาพลังงาน ในช่วงเดือนตุลาคม 2565 – เดือนธันวาคม 2565 อย่างใกล้ชิด และรายงานต่อ กพช. ทราบต่อไป

นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ขอความร่วมมือ ประหยัดนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

ที่ประชุม กพช. ยังมีมติเห็นชอบแนวทางการกำหนดอัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียว (Utility Green Tariff) ในโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าขายปลีก โดยประกอบด้วย (1) อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่มีอยู่เดิมในระบบไฟฟ้า ซึ่งเป็นการนำใบรับรองการผลิตไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy Certificate: REC) ของโรงไฟฟ้าเดิมที่รัฐมีกรรมสิทธิ์มาให้บริการร่วมกับการให้บริการพลังงานไฟฟ้า และเป็นการให้บริการในลักษณะที่ผู้ใช้ไฟฟ้าไม่ต้องเจาะจงแหล่งที่มาของไฟฟ้าและ REC ในการขอรับบริการ โดยมีอัตราค่าบริการส่วนเพิ่ม (Premium) เพิ่มเติมจากอัตราค่าไฟฟ้าตามปกติที่ครอบคลุมต้นทุนค่า REC รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) จะกำหนดต่อไป (2) อัตราค่าบริการไฟฟ้าสีเขียวจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนใหม่ และโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเดิมในระบบไฟฟ้าทั้งของรัฐและเอกชน ซึ่งเป็นการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและ REC ซึ่งมาจากแหล่งเดียวกัน โดยผู้ใช้ไฟฟ้าต้องเจาะจงกลุ่มโรงไฟฟ้า (Portfolio) ในการรับบริการ และอัตราค่าบริการกำหนดจากต้นทุนการให้บริการพลังงานไฟฟ้าและ REC ของแต่ละ Portfolio รวมถึงองค์ประกอบอื่นๆ ตามที่ กกพ. จะกำหนดต่อไป ทั้งนี้ ในการกำหนดองค์ประกอบและโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าสีเขียวทั้งสองรูปแบบ รวมถึงการจัดสรรต้นทุนการให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วไปที่ครอบคลุมต้นทุนสาธารณะ และวิธีการและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการ กกพ. จะพิจารณากำกับดูแลภายใต้พระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 ให้โปร่งใสและเป็นธรรมต่อผู้ใช้ไฟฟ้าทุกกลุ่ม

นายกฯ ประชุมบอร์ด กพช.ขอความร่วมมือ ประหยัดนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ

นอกจากนี้ ที่ประชุม กพช. ยังมีมติเห็นชอบการทบทวนการกำหนดอัตราเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามหลักเกณฑ์การกำหนดโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้า ประเทศไทย ปี 2554-2558 โดยให้มีการปรับปรุงข้อความการนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97(4) เพื่อการส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีที่ใช้ในการประกอบกิจการไฟฟ้าที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย จากเดิม “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตรา 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” เป็น “โดยเรียกเก็บจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าในอัตราไม่เกิน 0.5 สตางค์ต่อหน่วย” เพื่อให้ กกพ. สามารถกำหนดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าจากผู้รับใบอนุญาตจำหน่ายไฟฟ้าเป็น 0 บาทต่อหน่วยเป็นการชั่วคราว ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะช่วยลดผลกระทบภาระค่าไฟฟ้าต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน และเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกภาคส่วน

 

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยฟูลนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.