“ประวิตร” สั่งรับมือใต้ฝนตกชุก-เพิ่มแก้มลิงลุ่มน้ำเจ้าพระยาแก้ท่วมซ้ำซาก

 “บิ๊กป้อม” ห่วงฝนตกชุกภาคใต้ สั่งเตรียมพร้อมรับมือ ส่วนแผนระบายน้ำต้องกระทบประชาชนน้อยที่สุด ด้านพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา เร่งเพิ่มแก้มลิงแก้น้ำท่วมซ้ำซาก

วันที่ 1 ธ.ค. 2565 เมื่อเวลา 09.30 น. พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะอนุกรรมการอำนวยการด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ครั้งที่ 4/2565 โดยมี ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) พร้อมผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมการประชุม ณ มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

พลเอกประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมมีการติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งปัจจุบันกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝน ทำให้มีฝนตกชุก โดยเฉพาะบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออก ซึ่งได้มีการใช้ข้อมูลปริมาณน้ำฝนพยากรณ์ในระบบ One Map วิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมเพื่อเตรียมพร้อมเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้เปิดศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยภาคใต้ ณ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อบูรณาการความร่วมมือการบริหารจัดการน้ำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงติดตามแนวทางการบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง ปี 2565

ทั้งนี้ คณะกรรมการลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง มีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานการบริหารจัดการน้ำเขื่อนบางลาง เพื่อทำหน้าที่ควบคุม ติดตาม การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนบางลาง ให้เป็นไปตามแผนการบริหารจัดการน้ำที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เห็นชอบ รวมถึงสามารถปรับแผนการระบายน้ำเพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้ทันทีกรณีที่มีการประเมินหรือคาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะวิกฤติ โดยคณะทำงานเขื่อนบางลางคาดการณ์ปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนจากฝน และกำหนดแผนการระบายน้ำให้สามารถลดผลกระทบและความเสี่ยงได้มากที่สุด

สำหรับตลอดเดือน ธ.ค. 2565 มีแผนการระบายน้ำวันละ 8-12 ล้านลูกบาศก์เมตร และปรับลดตามสถานการณ์ ซึ่งที่ประชุมรับทราบแผนการระบายน้ำและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามกลไกที่กำหนดเพื่อลดผลกระทบให้เกิดแก่ประชาชนน้อยที่สุด นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยา ประชาชนที่ได้รับผลกระทบและเร่งระบายน้ำในทุ่งลงสู่ลำน้ำสายหลักต่อไป

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบกรอบแนวทางแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วนในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาใหญ่ ที่รัฐบาลมีนโยบายในการเพิ่มพื้นที่แก้มลิงรับน้ำให้มากขึ้น นอกจากจะเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพื้นที่จังหวัดลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเป็นประจำทุกปี อีกทั้งมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นจากสภาพการใช้ประโยชน์พื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบันและสภาพอากาศที่มีความผันผวนมากขึ้น ยังเป็นการเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ในช่วงแล้งได้อย่างมั่นคงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตร มีการกำหนดเป้าหมายในการดำเนินการปี 2565-2568 คือการตัดปริมาณน้ำหลากส่วนเกิน 3,000 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมมอบหมายให้เร่งดำเนินการควบคู่ไปกับโครงการ 9 แผนหลักลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง และมอบหมายให้มีการเสนอต่อ กนช. ให้ความเห็นชอบต่อไป

จากนั้น พลเอกประวิตร เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชน ครั้งที่ 2/2565 โดยขอให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดดำเนินการ แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึง รายงานผลให้คณะกรรมการ ทราบอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ข้อยุติโดยเร็วต่อไป.

{Fullwidth}